ปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่าการซื้อขายสินค้าผ่าน smartphone มีอย่างมากมายเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าจึงทำให้เทคโนโลยีระบบการชำระเงินสินค้าและบริการต้องพัฒนาตามไปด้วย จึงทำให้เกิดระบบ mobile payment ขึ้น

Mobile payment คือ การชำระเงินต่างๆผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือโอนเงินหรือชำระเงินให้กับร้านค้าและบริการต่างๆ แต่สำหรับในประเทศไทยเราสามารถเห็น Mobile payment ในรูปแบบของ Mobile banking เป็นส่วนใหญ่มากกว่าโดยใช้ application ของธนาคารในการชำระสินค้าหรือบริการต่างๆ  

Apple Pay

Apple pay คือหนึ่งในระบบ mobile payment ซึ่งนำบัตรเครดิตและเดบิตไปผูกเข้ากับตัว apple pay ใช้ได้กับบัตรเครดิต visa, MasterCard, American express และบัตรเดบิต โดยวิธีการจ่ายเงินจะใช้เทคโนโลยี NFC เข้ามา ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยนั้น apple ได้ใช้ระบบ touch id หรือการสแกนนิ้วมือเข้าช่วยในเรื่องนี้ รุ่น smart phone ที่สามารถใช้ apple pay ได้นั้น ก็จะเป็นรุ่น iPhone 6 , iPhone 6 plus ขึ้นไป apple watch , iPad air 2 และ iPad 3 mini ขึ้นไป ประเทศที่สามารถใช้งาน Apply pay ได้ตอนนี้มีทั้งหมด  6 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, ออสเตรเลีย, จีน และสิงคโปร์

apple-pay-demo_01-600x334

Android Pay

Android pay คล้ายๆกับ apple pay แต่ต่างกันอยู่ที่ว่า android pay สามารถจ่ายเงินให้กับร้านค้าที่มีแอพลิเคชั่นของตัวเองได้โดย android pay จะผูกบัตรต่างๆไว้ในแอพเลย และยังสามารถใช้ได้กับทุกเครื่องจ่ายเงินที่มี NFC รองรับโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่มี NFC ตัวอย่างแอพที่สามารถใช้ android pay จ่ายได้เลย เช่น Uber

androidpayamex

Samsung Pay

Samsung pay มีความคล้ายกับ apple pay อย่างมากแต่จะแตกต่างกันโดย Samsung pay ได้เพิ่มระบบ MST (Magnetic Secure Transmission) ทำให้มีโอกาสในการชำระเงินสินค้าได้มากกว่า ตอนนี้ประเทศที่ใช้ก็จะมี เกาหลีและอเมริกา

Samsung-Pay1

วีดีโอการใช้ Apple Pay , Android Pay , Samsung Pay

 

 

Reference: http://www.androidauthority.com/android-pay-vs-apple-pay-vs-samsung-pay-688041/

Kanyarat Povorasin