Skip to Content

Blog Archives

ทำ A/B Testing ด้วย Google Content Experiments

เวลาเราสร้าง page ของ website ขึ้นมา มีหลากหลาย design หรือ หลากหลาย content เราจะวัดผลได้ยังไงว่าแบบ ไหนดีกว่ากัน จะใช้ตัววัดอะไรดี Pageviews ?  Bounces Rate ? Session Duration ? ในบทความนี้เราจะลองลงมือทำ A/B Testing  แบบง่ายๆ ด้วย

Google Content Experiments ซึ่ง ฟรี  ไม่เสียเงิน มาเริ่มกันเลยครับ

ก่อนที่จะทำ A/B Testing นั้น ต้องทำสิ่งเหล่านี้ก่อน

1.สมัคร Google Analytics  ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

2.นำ code Google Analytics ไปวางบน page website

มาเริ่มกันเลย

  1. Sing in เข้าไปที่ Google Analytics > https://analytics.google.com/analytics/web/
  2. จากนั้นไป search คำว่า “Experiments” ทางด้านบนซ้าย

3.กดปุ่ม Create Experiment เพื่อเริ่มทำ A/B Testing กัน

4.ในตัวอย่างนี้ผมจะ Test จำนวนผู้เข้าชมระหว่าง blog A กับ blog B ซึ่งมี Design ต่างกันและเนื้อหาต่างกัน

ใน step 1 ให้ใส่เรียงตามนี้

  • ชื่อของวัตถุประสงค์ที่เราจะ test
  • วัตถุประสงค์ของการเทส ครั้งนี้ ซึ่งจะมีค่าเริ่มต้นให้ 3 ค่า
    • Pageviews – จำนวนผู้ที่เยี่ยมชม
    • Bounces เป็นอัตราของผู้เยี่ยมชมที่เข้ามายังหน้าเว็บของเราโดยที่ไม่ได้คลิ๊กต่อไปที่ไหนเลย
    • Session Duration – เวลาที่ผู้เยี่ยมชม อยู่ในหน้า page นั้นๆ
  • กำหนดค่า traffic ไปที่ 100%

จากนั้นกดปุ่ม save

Step 2

ให้ใส่ URL หน้า page ที่เราต้องการเทส โดยที่หน้าหลัก จะเป็น Original Page ส่วนหน้าที่เป็นตัวแปร ให้ใส่ที่ Variant1 และหากต้องการเปรียบเทียบหน้าอื่นๆ กับ Original Page ก็สามารถเพิ่มได้

Step 3

กดปุ่ม Manually insert the code และนำ copy code ไปวางไว้ที่ข้างล่าง tag header บน html page ที่เป็น original page

เอาไปวางไว้ตรงข้างล่าง html

Step 4

ถ้านำ code ไปติดเรียบร้อยแล้ว จะผ่านดังรูป แต่หากยังมี error แสดงว่า ติด code ผิด หรือยังไม่มี code Google Analytics ติดไว้

กดปุ่ม Save เป็นอันจบพิธีการ set A/B test  แบบง่ายๆ

 

อันนี้เป็นตัวอย่างผลการ test ที่ run มาได้ประมาณ เกือบ 2 เดือนครับ


A/B Testing คืออะไร ดูได้จากบทความนี้เลยครับ

 

ยังไงก็ลองดูกันนะครับ  สุดท้าย Google Experiment สามารถทำท่ายากได้อีกหลายท่า แต่อาจจะต้องมีความรู้ทางด้าน coding เพื่อเพิ่มความซับซ้อนของการเทส

เขียนโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

 

 

0 0 Continue Reading →

ทำความรู้จัก A/B Testing

A/B Testing คืออะไร

A/B Testing เป็นวิธีการเปรียบเทียบการออกแบบของ Web page ที่ออกแบบมาแตกต่างกัน เพื่อดูว่าแบบไหนมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน โดยที่พิจารณาจาก conversion rate ซึ่งเว็บไซต์แต่ละประเภทจะมี conversion rate ที่แตกต่างกัน เช่น

1.E-Commerce Website อาจจะวัดจาก ผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ซื้อสินค้ากับผู้เข้าชมเว็บไซต์เฉยๆ

2.Saas web app อาจจะวัดจากผู้เข้าใช้ application ที่ลงทะเบียนใช้ trail version และเปลี่ยนมาเป็นจ่ายเงิน (paid version)

3.ข่าวหรือ media เว็บไซต์ อาจจะวัดจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่คลิกโฆษณหรือกด subscriptions  กับผู้เข้าชมเว็บไซต์เฉยๆ

 

ทุกธุรกิจบนเว็บไซต์ต้องการที่จะเปลี่ยนจาก ผู้เข้าชมเว็บไซต์มาเป็นผู้ซื้อสินค้าหรือการกระทำแบบอื่นๆ ที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องการ เรียกว่า Conversion rate ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัววัดประสิทธิภาพของตัวแปร A, B ว่าแบบไหนที่เราออกแบบแล้วมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน

แล้วเราจะ test ส่วนไหนของ website ได้บ้าง

ทุกองค์ประกอบของเว็บไซต์สามารถทำ A/B Test ได้ ได้แก่
1.Headlines
2.Sub headlines
3.Paragraph
4.Testimonials
5.Text Link
6.Action Button
7.Links
8.Images
9.Content
10.Social proof
11.Media mentions
12.Awards และ badges

ขั้นตอนการทำ A/B Testing
1.ศึกษาข้อมูลเว็บไซต์ โดยใช้ Google Analytics เพื่อหาปัญหา เช่น หน้า page ที่มี bounce rate สูงๆ คนที่เข้ามาเว็บไซต์หน้าไหนแล้ว ออกจากเว็บไปโดยไม่ดูหน้าอื่นต่อ เช่น ถ้าคนเข้ามาดูหน้า home page แล้ว ไม่มีคลิกไปที่อื่นต่อ หรือไม่คลิกที่รูปภาพไหนเลย แสดงว่า ควรจะทำ A/B test ที่หน้า home page ก่อน เพราะ bounce rate สูง

2.ตั้งสมมติฐาน ควรจะตั้งสมมติฐานที่ทำให้เพื่ม conversion rate เช่น รูปโปรโมชั่น ควรทำให้มีเนื้อหาดึงดูใจผู้ที่เข้ามาชม หรือ ปุ่มซื้อสินค้าเล็กเกินไป ไม่เด่นทำให้ผู้เข้าชมเว็บไม่เป็นที่สังเกตุ

3.ทดสอบสมมติฐาน โดยการสร้างตัวแปรที่สอดคล้องกับสมมติฐานจากข้อ 2 โดยเทียบกับ web page ปัจจุบัน เช่น ตัวแปร A เป็น web page ปัจจุบันที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และตัวแปร B เป็น web page ที่มีรูปโปรโมชั่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีเนื้อหาดึงดูดให้เข้ามาคลิก

4.ดูผลลัพธ์จากการสร้างตัวแปร AB test วิเคราะห์ผลลัพธ์จากข้อ 3 ว่าตัวแปร B ที่เราสร้างรูปโปรโมชั่นใหม่ มีผู้เข้าชมเข้ามากดคลิก เพิ่มขึ้นขนาดไหน ถ้ามีคนคลิกเยอะแสดงว่า ควรที่จะปรับปรุงรูปโปรโมชั่นบนหน้า homepage เพื่อลด bounce rate และ เพิ่ม conversion rate ให้มากกขึ้น แต่ถ้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงว่ารูปโปรโมชั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรปรับปรุง ควรจะกลับไปข้อ 2 เพื่อตั้งสมมติฐานใหม่และลองใหม่เพื่อหาสาเหตุปัญหาบน web page


 

บทความต่อไป เป็นการใช้ Google Experiment ทำ A/B Testing แบบ ฟรีๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

หากสนใจที่จะเพิ่มยอดขายให้กับ E-Commerce  สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย

เขียนโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

 

0 0 Continue Reading →

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save