Conversion Rate เป็นสิ่งที่วัดประสิทธิภาพรายได้ของ Website E-commerce ที่สำคัญตัวหนึ่ง โดยคำนวนจาก จำนวนผู้ซื้อสินค้า/จำนวนผู้เข้าชม Website ยิ่งสูงมาก ยิ่งมีโอกาสที่เงินจะเข้าเยอะ
ใน Magento Version 2.1 มี Feature ที่สามารถเพิ่ม Conversion Rate ได้แก่
1. Elastic search (Enterprise Edition)
Admin สามารถกำหนด Priority การ Search ด้วยการ set น้ำหนักให้แก่ Attribute ต่าง เช่น หากต้องการให้คำที่ลูกค้า Search ไป Match กับ ชื่อสินค้าก่อนสี, ขนาด, ไซส์สินค้า เราก็ใส่ น้ำหนัก “ชื่อ” มากกว่า สี ขนาด หรือ ไซส์
การใช้ Stop words โดยเพิ่ม stop word เข้าไปใน stopwords.csv เท่านี้ก็ทำให้ performance ของการ Search เพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ออกมาได้ทันใจ ลูกค้า และ Search synonyms การค้นหาคำต่างๆ ของลูกค้า บางครั้งอาจจะไม่มีผลลัพธ์สำหรับคำนั้นเป๊ะๆ ดังนั้นการเพิ่มคำเหมือน (synonyms ) จะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาสินค้าใน Website เราให้เจอได้ง่ายขึ้น
2. PayPal in-context checkout
ขั้นตอนการชำระเงินที่ยืดยาว อาจทำให้ลูกค้าเบื่อในการกรอกข้อมูล Magento 2 สามารถลดขั้นตอนการ Check out เพื่อให้ชำระเงินโดยต่อกับระบบ PayPal ได้ทุกหน้าที่ต้องการ และเป็นการโชว์ pop up แทนที่จะ redirect ไปที่หน้า PayPal
3. Varnish caching
เพิ่มประสิทธิภาพในการ Loading Page ให้เร็วขึ้นถึง 6-25 เท่า
4. Visual Merchandizer
มี Feature ที่เพิ่มขึ้นจาก Magento Enterprise 1.4 โดยสามารถแสดงสินค้าตามที่เงื่อนไขที่เรากำหนด เช่น ประเภทสินค้า (Smart Category Rules) และการ drag and drop สินค้าที่จะแสดงในหน้า page ต่างๆ
5. Customer Segmentation
ลูกค้าคนไหน เป็นลูกค้าชั้นดี ที่มาซื้อกับเราเป็นประจำ นอกจากจะให้ Promotion เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษยิ่งขึ้นแล้ว ก็ควรจะจัด Segment ของลูกค้าแต่ละคน การทำ Segment นั้น อาจจะตั้งกลุ่มลูกค้าเป็น Platinum, Premium, VIP, Gold, Sliver ซี่งแต่ละกลุ่ม แต่ละ Segment ลูกค้าจะเห็น ราคาสินค้าพิเศษที่แตกต่างกันไป หรือเห็นสินค้าเฉพาะกลุ่มของลูกค้า (Private Sale)
นอกเหนือจาก Feature ของ Magento 2 ที่สามารถเพิ่ม Conversion Rate ให้กับ website ของเราแล้ว ยังมีเครื่องมือ CRO Toolbox ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการออกแบบ website ขึ้นได้อีก มาดูตัวอย่างกันครับ
1. Google Analytics
เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและฟรี นิยมนำมาวิเคราะห์ดูสถิติของผู้เข้าชม Website รวมถึงพฤติกรรมของผู้เข้าชม โดยแสดงจำนวน Visitor , Traffic , Content เป็นต้น
2. Inspectlet
เครื่องมือนี้สามารถเก็บวิดีโอหน้าจอที่ลูกค้าเข้ามาบน website เพื่อดูพฤติกรรมของลูกค้าอย่างละเอียด ว่าคลิกตรงไหน กรอกข้อมูลตรงไหนก่อนหลัง แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ ดูว่าลูกค้าของเรามีปัญหาในหน้า page ไหน
3. MageMail
สามารถให้ลูกค้านำข้อมูลตระกร้าสินค้าที่ลูกค้าทิ้งไป หรือยังไม่ได้ชำระเงิน แค่ 1 คลิกผ่านอีเมลแจ้งเตือน และแนะนำสินค้าต่างๆ โดยวิเคราะห์จากสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อ หรือเคยเพิ่มเข้าในตระกร้าสินค้าแบบอัตโนมัติ ซึ่งลดภาระทาง Admin ลงได้ และมี Feature แจ้งเตือนอื่นๆ อีกมากมาย
4. Google PageSpeed Insights
เมื่อเราสร้าง Website เสร็จ จะรู้ได้อย่างไรว่า web ของเรานั้นมีความสามารถในการดึงข้อมูลต่างๆ มาแสดงผลลัพธ์ในหน้า page นั้นได้อย่างรวดเร็ว
Google PageSpeed Insights สามารถช่วยได้ โดยวิเคราะห์ข้อมูลการโหลด page และแนะนำการ tuning page speed อย่างละเอียด
5. AddShopper
หากต้องการรู้ว่า ช่องทางใดของ Social Media ที่สามารถเพิ่ม Conversion ให้เราได้เยอะที่สุด เครื่องมือนี้ตอบโจทย์อย่างแน่นนอน
6. Google Content Experiment
หากเราต้องการที่จะ test ว่า Design page ไหนดีกว่ากัน แบบ A หรือ แบบ B สามารถใช้เครื่องมือนี้ได้เลยแบบฟรี แต่อาจจะต้องเรียนรู้วิธีการตั้งค่านิดหน่อย
credit:https://magento.com/blog/best-practices/magento-conversion-rate-optimization-strategies
หากสนใจที่จะเพิ่มยอดขายให้กับ E-Commerce สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย
แปลและเรียบเรียงโดย Kittiphat Dumrongprat
Business Analyst