Skip to Content

Blog Archives

สตรีมฯ ขนโซลูชันสำหรับธุรกิจประกันไปร่วมออกบูธในงาน TIF2022

เมื่อวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ที่ 7-9 ตุลาคม ที่ผ่านมา สตรีมฯ นำโซลูชั่นด้านดิจิทัลที่เกี่ยวกับ InsurTech ไปร่วมออกบูธ ณ Impact Exhibition Hall 6 เมืองทองธานี บูธ E13

โซลูชั่นหลักๆ ได้แก่

  • Insurance Mobile Application แอปพลิเคชั่นที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจประกันโดยเฉพาะ
  • vClaim Video Conference ตอบโจทย์การเคลม ง่ายๆ ผ่านแอป ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบอีกต่อไป
  • Security ทั้งระบบเน็ตเวิร์กและข้อมูล ทั้งแบบ on-premise และ on-cloud
  • Storage จัดเก็บข้อมูล ช่วยประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ

 

สำหรับท่านใดที่แวะมาที่บูธ และได้ฟังโซลูชั่นที่สนใจแล้ว เรามีกิจกรรมให้ร่วมสนุก แจกแก้วน้ำหลากสีน่ารักๆ ติดมือกลับบ้านด้วยค่ะ

 

นอกจากสตรีมฯ จะนำโซลูชั่นมาออกบูธแล้ว ช่วงกิจกรรมบนเวทีกลางในงาน ยังได้เชิญผู้บริหารของเรา คุณณัฐพงศ์ Senior Vice President ขึ้นเป็น speaker บนเวที ในหัวข้อ “ตอบโจทย์ตวามต้องการลูกค้าเร็วขึ้น 10 เท่า สร้างไอเดียให้เป็นจริงอย่างรวดเร็ว ด้วยเครื่องมือพัฒนาแอพยุคใหม่” ในวันแรกของงานคือ วันที่ 7 ตุลาคม เวลา 13.45-14.30 น. ด้วยค่ะ ความน่าสนใจคือการสร้างแอปพลิเคชั่นด้วย Low-code platform ที่สตรีมฯ ทำให้ลูกค้าหลายที่แล้วเห็นผลจริงว่าแอปสำเร็จในเวลาไม่กี่สัปดาห์ สามารถนำไปใช้ได้ทั้งในธุรกิจประกันภัย รวมถึงทุกๆ ธุรกิจค่ะ

ท่านสามารถรับชมช่วงกิจกรรมสัมภาษณ์ได้ที่ https://youtu.be/L_Iha5HZ2bU

 

เราขอเก็บภาพบรรยากาศจากงานมาฝาก และขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาสอบถามและร่วมสนุกกันที่บูธนะคะ

0 0 Continue Reading →

งานสัมมนาอัปเดตเทคโนโลยี Storage แบบ All-Flash Array โดย Stream-PureStorage-Vintcom

เมื่อวันศุกร์ที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา สตรีมฯ จัดงานอีเว้นท์ ร่วมกับ Pure Storage และ Vintcom ตั้งแต่เวลา 11:30 – 16.30 น. ณ โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit

หัวข้อของงานในวันนี้ คือ “Optimize your Oracle Database Infrastructure with Pure Storage” เราตั้งใจอัปเดตเทคโนโลยี Storage โดยเฉพาะหากองค์กรใดที่ใช้ Oracle Database อยู่ แล้วพบว่าระบบทำงานช้า โซลูชั่นตัวนี้จะช่วยให้การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ขององค์กรลูกค้ารวดเร็วกว่าที่เคย ด้วยเทคโนโลยี All-Flash Array ซึ่งใช้งานง่าย มีลูกค้าองค์กรสนใจลงทะเบียนเข้าฟังสัมมนาและมาร่วมรับประทานอาหารกลางวัน มากกว่าที่เราคาดไว้

หลังงานเราได้เก็บ feedback และทราบว่า Pure Storage เป็นโซลูชั่นที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ได้ และมีแผนจะนัดลูกค้าที่สนใจเพื่อเข้าไปทำ Demo ให้ในลำดับถัดไป

ก่อนจบการสัมมนา มีกิจกรรม Lucky Draw ให้ลูกค้าร่วมลุ้นรางวัล โดยรางวัลที่ 1 เป็นหูฟัง Marshall มูลค่า 6,990 บาท รางวัลที่ 2 และ 3 เป็นบัตร Starbuck มูลค่า 1,000 บาท และ 500 บาท ตามลำดับ พร้อมแจกของที่ระลึกจากงาน ติดมือกลับบ้านค่ะ

สุดท้ายนี้ ทีมงานต้องขอขอบคุณลูกค้าที่เข้าร่วมงานทุกท่าน มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ และหวังว่าจะมีโอกาสได้นำเสนอโซลูชั่นที่น่าสนใจอีกในเร็ววันค่ะ

 

0 0 Continue Reading →

Global-Active Device ปกป้องข้อมูลระดับองค์กร ลดทอนข้อจำกัดด้าน Data Recovery

เมื่อก่อนการทำ Data Recovery จะต้องคอยกังวลเรื่องการประเมินข้อมูลใหม่ หรือข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงจะสูญหายไปมากเพียงใด เนื่องจากยังไม่ได้สำรองข้อมูล (Recovery Point Objective: RPO) ไหนจะเรื่องระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการทำงานต่อ (Recovery Time Objective: RTO) แต่ในตอนนี้ ข้อจำกัดเหล่านั้นจะหมดไป

ด้วยเทคโนโลยีใหม่จาก Hitachi Vantara ซึ่งสามารถทำให้ RPO และ RTO เป็นศูนย์ เพราะคุณสมบัติ Global-Active Device (GAD) ที่มากับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลตระกูล G F E และ 5000 Series ซึ่งอยู่ภายใต้ Product-Line Family ที่เรียกว่า Virtual Storage Platform (VSP) แล้ว Global-Active Device (GAD) คืออะไร

Global-Active Device (GAD) เป็นอีกหนึ่งความสามารถของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลตระกูล VSP ที่สามารถสร้างเครื่องจัดเก็บข้อมูลเสมือน (Virtualize Storage Machine) ขึ้นมา โดยที่เครื่องจัดเก็บข้อมูลเสมือนจะทำการจำลองอาร์เรย์ (Array) สำหรับจัดเก็บข้อมูลของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล VSP สองชุดแยกออกจากกัน และทำให้ปรากฏเป็นอาร์เรย์หน่วยเก็บข้อมูลเดียวสำหรับเซิร์ฟเวอร์โฮสต์เดี่ยว (Host Server) หรือคลัสเตอร์ของเซิร์ฟเวอร์โฮสต์ (Cluster of Host Servers)

นอกจากนี้ GAD ยังมีความสามารถทำให้ระบบจัดเก็บข้อมูลหลัก (Primary Storage) และระบบจัดเก็บข้อมูลรอง (Secondary Storage) ใช้ข้อมูลจริงของระบบจัดเก็บข้อมูลหลักได้ และไดรฟ์ข้อมูลหลักและรองของอุปกรณ์ที่ใช้งานคุณสมบัติ Global-Active จะได้รับหมายเลข LDEV เสมือนเดียวกันในเครื่องจัดเก็บข้อมูลเสมือน สิ่งนี้ทำให้โฮสต์สามารถดู Volume คู่เป็น Volume เดียวบนระบบจัดเก็บข้อมูลเดียว และทั้งสอง Volume นั้นจะได้รับข้อมูลเดียวกันจาก Host

เมื่อการเขียนข้อมูลเสร็จสิ้นใน Volume ใดก็ตาม ข้อมูลจะถูกจำลอง (Replicate) ไปยัง Volume อีกคู่หนึ่งอย่างต่อเนื่องก่อนที่การเขียนจะเสร็จสิ้น ซึ่งช่วยให้ไดรฟ์ข้อมูล Sync กันตลอดเวลา และทำให้มั่นใจได้ว่า RPO และ RTO เป็นศูนย์ในกรณีที่ระบบจัดเก็บข้อมูลหรือไซต์ล้มเหลว

เครื่องจัดเก็บข้อมูลเสมือนสามารถขยายไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลที่แยกจากกันด้วยระยะทางไกลสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร และด้วยคุณสมบัติของ GAD  ทำให้เหมาะกับการทำงานที่ต้องการความ Non-disruptive, High Availability (HA), Disaster Recovery (DR) หรือการบริการย้ายศูนย์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การเคลื่อนย้ายของหน่วยเก็บข้อมูลเครื่องภายใต้สภาพแวดล้อมการจัดเก็บข้อมูลสำหรับการทำ Load-Balance หรือการบำรุงรักษาทั่วไปก็เป็นเรื่องที่ง่ายและไม่กระทบต่อตัวอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

 

ข้อดีจากการมี Global-Active Device (GAD)

     Global-Active Device (GAD) ของ Hitachi Vantara เป็นผู้นำด้านการใช้งานในรูปแบบการทำงาน Active-Active ที่มาพร้อมกับ ความเรียบง่ายในการใช้งาน (Simplicity) ความสามารถในการขยาย (Scalability) และ ผลตอบแทนการลงทุน (Return on Investment (ROI)) ที่คุ้มค่าตอบโจทย์ทุกธุรกิจในยุคปัจจุบัน

     1. ความเรียบง่าย (Simplicity) เนื่องจาก GAD เป็นหนึ่งในความสามารถการจำลองเสมือนของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่อยู่ภายใต้ระบบบริหารจัดการ Storage Virtualization Operating System RF (SVOS RF) ของ Hitachi จึงไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมหรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติมสำหรับเซิร์ฟเวอร์โฮสต์ (Host Server) หรือเครื่องเสมือน (Virtual Machine)

     2. ความสามารถในการขยาย (Scalability) Hitachi GAD ให้การประมวลผลข้อมูลแบบ Active-Active อย่างแท้จริงทั่วทั้งอาร์เรย์จัดเก็บข้อมูล ซึ่งขยายขอบเขตเกินกว่าการใช้งานในผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นๆ ที่มีเพียงอาร์เรย์จัดเก็บข้อมูลเดียวเท่านั้นที่ทำงานอยู่ ในขณะที่อีกอาร์เรย์หนึ่งใช้สำหรับสแตนด์บาย (Standby) และ Controller ในอาร์เรย์จัดเก็บข้อมูลบนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลตระกูล VSP แต่ละอันยังมีคุณสมบัติ Active-Active ซึ่งทำให้เราขยายประสิทธิภาพได้ดีกว่า Controller ของผู้จำหน่ายรายอื่นที่เป็น Active/Passive หรือ ALUA (Asymmetric Logical Unit Access)

     3. ผลตอบแทนการลงทุน (Return on Investment: ROI) ด้วยคุณสมบัติของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลตระกูล VSP ที่มีความสามารถในการจำลองพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกเสมือนและสร้างเครื่องจัดเก็บข้อมูลเสมือน จากการนำอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลตระกูล VSP ไปครอบอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเดิมที่คุณมีอยู่

คุณจะสามารถจำลองพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหลังอาร์เรย์ VSP และสร้างเครื่องจัดเก็บข้อมูลเสมือนได้ ทั้งนี้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล VSP ในกรณีนี้ไม่ต้องการพื้นที่ความจุแต่อย่างใด เนื่องจากพื้นที่ความจุทั้งหมดสามารถมาจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของบุคคลที่สามหรือของเดิมที่มีอยู่ (Third Party Storage System) อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล VSP ทั้งหมด ตั้งแต่ระดับกลางไป (Mid-Range) จนถึงระดับไฮเอนด์ (High-End Enterprise) มาพร้อมคุณสมบัติ GAD ดังนั้นคุณไม่จำเป็นเสียค่าใช้จ่ายกับการต้องมีโซลูชันหรือเครื่องมือบริหารจัดการเพิ่มเติม และไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์โฮสต์เพิ่มเติมเพื่อรองรับ GAD

 

Scenario ที่น่าสนใจกับการใช้งาน GAD บนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของ Hitachi Vantara

  1. Fault-tolerant storage infrastructure

กรณีเกิด Site ล้มเหลวทำให้ Server ไม่สามารถเข้าถึง Volume ที่อยู่ใน GAD Pair การอ่านและเขียน I/O ยังคงสามารถดำเนินการต่อไปใน Pair Volume ที่อยู่ในระบบจัดเก็บข้อมูลอื่นอีก Site นึง ทำให้เกิด I/O ของ Server อย่างต่อเนื่องกับ Volume ข้อมูล

 

  1. Failover clustering without storage impact

กรณีที่ Server Cluster มีการใช้ GAD อยู่ การ Failover และ Failback จะเป็นหน้าที่ของ Software Cluster โดยที่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่อยู่ใน GAD Pair ไม่ต้องทำการระงับการใช้งานหรือต้อง Sync การทำงานกันใหม่

 

  1. Server load balancing without storage impact

 

เมื่อมีการโหลด I/O บนเครื่องจัดเก็บข้อมูลเสมือนที่ไซต์หลักเยอะมากๆ การใช้งาน GAD จะช่วยให้สามารถโยกย้ายเครื่องเสมือน (Virtual Machine (VM)) ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่จับคู่โดยไม่ต้องดำเนินการใด ๆ บนระบบจัดเก็บข้อมูล ดังที่แสดงในตัวอย่างรูปด้านขวา เครื่องเสมือน VM3 จากเซิร์ฟเวอร์ไซต์หลักจะถูกย้ายไปยังเซิร์ฟเวอร์ไซต์รอง เนื่องจาก Volume ข้อมูลหลักและรองของ GAD มีข้อมูลเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องย้ายข้อมูลใดๆ ระหว่างอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

สำหรับผู้ที่สนใจดูตัวอย่างการทำ GAD ของจริง จากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของ Hitachi Vantara สามารถติดต่อสตรีมฯ ได้ครับ

พิเศษสุด สำหรับผู้ติดต่อเข้ามา 5 รายแรก รับการปรึกษาและประเมินการใช้งานระบบของท่านจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ Stream และ Hitachi Vantara มูลค่า 50,000 บาท ฟรีทันที

สอบถามข้อมูลติดต่อ

 

เขียนและเรียบเรียงโดย Wanit Treeranurat

0 0 Continue Reading →

สตรีมฯ จับมือหัวเว่ย ผนึกจุดแข็ง ลุยตลาด Enterprise Networking, Storage และ Cloud

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ – คุณกนกวิภา วิริยประไพกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตรีมฯ ไอ.ที. คอนซัลติ้ง จำกัด ได้รับเกียรติจากทาง บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด เชิญมาร่วมเป็นวิทยากรรับเชิญ ขึ้นพูดในหัวข้อ​ “FSI Digital​ Ready” ช่วง Finance Session กับโจทย์ “ICT Enables the Financial Industry Digital Transformation” ในงาน​ Powering Digital Thailand 2021

ณ วันนี้ สตรีมฯ เป็นคู่ค้าในระดับ Gold Partner ของหัวเว่ย เราจับมือกันเพื่อนำเสนอบริการให้กับสถาบันการเงิน รวมถึงองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่สำคัญของไทย

 

ภายในงาน คุณกนกวิภา ได้พูดถึง Roadmap ของธนาคารแห่งประเทศไทยในเรื่อง Payment Systems ที่มีองค์ประกอบหลัก ๆ 5 คำ คือ Interoperable, Innovation, Inclusion, Immunity และ Information ว่า ในการชำระเงินมีทั้งส่วนการโอนเงินทันทีให้กับบุคคลและโอนเงินระหว่างประเทศในมุมของธุรกิจ แต่ละแบบก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้นระบบจึงต้องมีความพร้อมในการเชื่อมต่อและมีความเสถียร

นอกจากนี้ กรอบที่ธนาคารแห่งประเทศไทยวางไว้นั้นมีความเชื่อมโยงกันอยู่ เมื่อเรานำไปปฏิบัติในการออกแบบระบบ สตรีมฯ ก็ยึดมั่นในความเชื่อมโยง เพื่อให้ทั้ง Ecosystem ทำงานได้ราบรื่นมากที่สุด

ด้วยความที่สตรีมฯ โลดแล่นอยู่บนเส้นทางการเป็นที่ปรึกษาโซลูชั่นให้กับบริษัท Enterprise ​มากว่า 20 ปี จนมาเป็น Digital Provider ในวันนี้ เรามั่นใจในประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในภาคการเงินการธนาคาร

 

โซลูชั่นด้านการเงินที่เราทำเริ่มตั้งแต่ด้าน Payments เราอยู่เบื้องหลังการวางระบบ infrastructure ให้กับสถาบันการเงินไทยมากว่า 2 ทศวรรษ เช่น การทำ Debit & Credit Card การร่วมวางระบบ PromptPay ไปจนถึงการทำ QR code เพื่อรองรับการชำระเงิน ที่มี transaction มหาศาลในปัจจุบัน

การวางระบบ Payment Hub ทั้งส่วนของรายย่อยและธุรกิจให้ธนาคารต่าง ๆ รวมไปถึงการออกแบบระบบด้านความปลอดภัยที่ใช้ตรวจสอบการฉ้อโกง การป้องกันการฟอกเงิน และการโจมตีทางไซเบอร์ เป็นต้น

 

ปัจจุบันเราทำโครงการเพื่อเชื่อมต่อระบบไปยังหน่วยงานของกรมสรรพากร และภาคพื้นอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการทำระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax) ระบบจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice and e-Receipt) ระบบการชำระอากรเป็นตัวเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสำหรับตราสาร อิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp) และมาตรฐานข้อความที่ใช้สื่อสารในอุตสากรรมการเงินสากล ISO20022

จุดแข็งของสตรีมฯ คือการมีโซลูชั่นในกลุ่มอุตสาหกรรมทางการเงินที่ครบวงจร ระบบมีความเสถียร และวิสัยทัศน์ด้านดิจิทัล คอยสนับสนุนการเติบโตของภาคการเงินการธนาคารตลอดมา เรามองเห็นเทรนด์เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด และสรรหาพาร์ทเนอร์อันดับต้น ๆ ในแต่ละด้านมาร่วมวางระบบ

 

วันนี้หัวเว่ยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่ทรงพลัง ทำให้เรามั่นใจว่าเป็นพาร์ทเนอร์ที่เรามองหา อีกทั้งหัวเว่ยมีชื่อเสียงทั้งในตลาด Consumer อย่างสมาร์ทโฟน หรือในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมไปถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก ๆ คือ เครือข่ายโทรคมนาคม ไอที อุปกรณ์อัจฉริยะ และบริการ Cloud

 

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครือข่ายโทรคมนาคมนั้น หัวเว่ยนับเป็นผู้นำของแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวกับ Data Center โดยมี Software-Defined Networking ซึ่งติดอันดับใน Gartner มีข้อดีคือ ลดงานของทีม Network Operation การ Config ทั้งหมดจะกลายเป็นแบบอัตโนมัติ จึงช่วยลดความผิดพลาดในการ Configure ลง

ทั้งยังสามารถตรวจสอบการทำงานที่ผิดปกติในระบบเครือข่าย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ Application ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม รวมถึงการบริหารจัดการระบบเครือข่ายสำหรับ Cloud ที่มีอุปกรณ์ Switch จำนวนนับพันนับหมื่นตัว จะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ส่วนผลิตภัณฑ์ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของหัวเว่ยนั้น Storage นับเป็นส่วนที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เช่น All-Flash Storage ที่เป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่ เร็วกว่าเดิม ประหยัดกว่าเดิม ตอบสนองในการใช้งาน Application ระดับหลายล้าน Transaction

ทำให้กระบวนการทางธุรกิจมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น แล้วยังช่วยตรวจจับสิ่งผิดปกติหรือข้อบกพร่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้าด้วย นั่นทำให้เมื่อนับส่วนแบ่งตลาด Storage กว่า 50% ของธนาคารหลักใช้โซลูชั่น Huawei All-Flash Storage ซึ่งดูแลโดยสตรีมฯ

นอกจากนี้ ทางหัวเว่ยเองก็ผลักดันบริการ Cloud ในไทยสำหรับธุรกิจในระดับองค์กร โดยพัฒนา Public Cloud ที่มี Data Center อยู่ในประเทศไทย ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหลไปต่างประเทศ อีกทั้งยังหมดปัญหาเรื่องความล่าช้าในการส่งข้อมูล

 

หัวเว่ยไม่เพียงแต่มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ เมื่อมองในมุมของการลงทุนในความรู้ด้านเทคโนโลยี บุคลากร การทำตลาด โมเดลธุรกิจที่หัวเว่ยวางไว้ และการมุ่งมั่นพยายามเข้าถึงความต้องการของลูกค้าอย่างจริงจัง ล้วนเอื้อหนุนให้ทุกฝ่ายเติบโตไปด้วยกัน

 

สตรีมฯ ได้ร่วมกับหัวเหว่ยในในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น โครงการระบบการนำเข้าและคัดแยกข้อมูลการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้ National e-Payment ของกรมสรรพากร โครงการตรวจสอบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Know Your Customer: e-KYC) และโครงการบริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (National Digital ID: NDID) ในหลายธนาคาร

 

นอกเหนือไปจากภาคธนาคาร เรามีโซลูชั่นที่เหมาะสำหรับหลายหลายกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรัฐ โรงพยาบาล ประกัน ค้าปลีก หลักทรัพย์ โทรคมนาคม ฯลฯ สนใจสอบถามโซลูชั่นด้านดิจิทัลขององค์กรคุณ ติดต่อได้ที่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สตรีม ไอ.ที. คอนซัลติ้ง จำกัด ที่อีเมล Marketing@stream.co.th หรือโทร. 02-679-2233

0 0 Continue Reading →

พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลฯ ใกล้ครบกำหนด 1 ปี! รีเช็คว่าคุณพร้อมแล้วหรือยัง

ใกล้ครบกำหนด 1 ปี ที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ปลายเดือนพฤษภาคม 2563 นี้แล้ว เชื่อว่าหลายองค์กร ต่างก็เตรียมความพร้อมและเร่งมือในการทำตามข้อกำหนด

Blog ก่อนหน้านี้ เราได้พูดถึงสาระสำคัญในพ.ร.บ. ที่เกี่ยวกับสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลและสิ่งที่ผู้เก็บข้อมูลพึงกระทำและระวังเพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา

ในภาคนี้ เราจะเน้นเรื่องคนในองค์กร ก่อนอื่นเราต้องเช็คว่า หน่วยงานของคุณเข้าข่ายต้องทำตาม พ.ร.บ. นี้หรือไม่

ใน พ.ร.บ. ได้ระบุหน้าที่ของผู้ที่มีส่วนสำคัญ 3 ฝ่าย ได้แก่
1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) เป็นบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
2. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) เป็นผู้ที่องค์กรจะต้องแต่งตั้งขึ้นมา หากเป็นหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานที่มีข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมาก หรือมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ sensitive
3. ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) เป็นบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวจะต้องไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือ ถ้าคุณมีการเก็บและใช้ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนได้ อย่าง ชื่อ, เบอร์โทร, รูปภาพ, ประวัติส่วนตัวทุกอย่าง หรือต้องประมวลผลข้อมูลลูกค้าของลูกค้า หรือแม้ธุรกิจจะอยู่นอกประเทศไทย แต่มีการเสนอขายสินค้าให้กับคนในประเทศไทย มีการใช้และรับข้อมูล ไม่ว่าจะผ่านอีเมล เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ไปรษณีย์ หรือช่องทางอื่นใด ยินดีด้วยค่ะ คุณเข้าข่ายที่จะต้องปฎิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ทีนี้แต่ละองค์กรต้องมาดูว่า แผนกใดที่ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลบ้าง ซึ่งประเด็นหลักที่ต้องพิจารณาคือ “ข้อมูลทุกอย่างที่เก็บและใช้ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล” หรือที่เราเรียกว่าการทำ consent ว่าจะเก็บข้อมูลเพื่ออะไร นำไปใช้ทำอะไร มีการแจ้งวัตถุประสงค์ และให้รายละเอียดในการเก็บข้อมูลที่ชัดเจนสำหรับการนำไปใช้แต่ละครั้ง ทั้งยังต้องให้สิทธิ์แก่เจ้าของข้อมูลเมื่อใดก็ตามที่ต้องการถอนความยินยอม

ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคลที่แต่ละแผนกในองค์กรเกี่ยวข้อง ได้แก่
1. ฝ่ายทรัพยากรบุคคล มีข้อมูลพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น ประวัติส่วนตัว ข้อมูลด้านสุขภาพ สัญญาจ้างงาน รวมถึงข้อมูลของผู้สมัครงาน เช่น Resume, CV, ใบสมัคร เป็นต้น
2. ฝ่ายการตลาด และประชาสัมพันธ์ มีการเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น ฐานข้อมูลติดต่อ มีการทำแคมเปญและกิจกรรมการตลาด อาทิ การส่งจดหมายข่าว ส่งแบบสอบถาม ส่งหมายเชิญมางานอีเว้นท์ เป็นต้น
3. ฝ่ายขาย มีข้อมูลลูกค้า ข้อมูลผู้สนใจสินค้า
4. ฝ่ายกฎหมาย มีการเขียนสัญญา ข้อตกลง การออกนโยบายต่างๆ ขององค์กร เพื่อรองรับเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
5. ฝ่ายไอที ผู้ดูแลระบบ จะต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีโซลูชั่นด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่มารองรับทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Server, Storage, Database, Application, Network Firewall, Website, Email Gateway ฯลฯ

แม้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะส่งผลกับภาพรวมองค์กร เพราะทุกแผนกที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจและปฎิบัติตามพร้อมๆ กัน แต่ถ้ามีระบบหลังบ้านที่ดี ก็ย่อมเป็นตัวช่วยสำคัญในการจัดการให้ง่ายและราบรื่นยิ่งขึ้น

สตรีมฯ เราทำด้าน Cybersecurity มายาวนานค่ะ และมีประสบการณ์วางระบบรักษาความปลอดภัยด้านไอทีให้กับหลายภาคส่วน เรามีโซลูชั่นด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่ครบครัน มาดูกันว่าเราทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันดูแลข้อมูลส่วนบุคคลบ้างค่ะ

สนใจติดต่อฝ่ายการตลาดได้ที่อีเมล Marketing@stream.co.th หรือโทร. 092-283-5904 นะคะ

 

0 0 Continue Reading →

พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล – ทำอย่างไรให้ทันเวลา!

ในยุค 4.0 ที่ข้อมูลหลาย ๆ อย่างเคลื่อนไหวอยู่บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัวอย่าง ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทร รวมถึงประวัติการเข้าถึง เข้าชม ทุกอย่างล้วนถูกจัดเก็บไว้บนโลกออนไลน์ แน่นอนว่าข้อมูลต่าง ๆ ที่กล่าวไปนั้น เป็นข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดทำธุรกรรมหรืออื่น ๆ ได้อย่างมากมาย ซึ่งมีทั้งด้านดีและไม่ดี ฉะนั้นเราจึงต้องการตื่นตัวกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเอง ไปจนถึงระดับองค์กรที่เก็บข้อมูลผ่านระบบต่าง ๆ และนำข้อมูลของบุคคลอื่นมาใช้

 

สำหรับประเทศไทยเรา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล เพราะในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ก็ได้รับความเห็นชอบ เกิดเป็น “พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562” เรามาทำความเข้าใจ พ.ร.บ. ฉบับนี้ว่ามีส่วนใดที่น่าสนใจและจำเป็นต้องคำนึงถึง

พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

สำหรับ พ.ร.บ. ฉบับล่าสุดนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันมีหลายองค์กรที่เก็บข้อมูลของลูกค้าไว้เป็นข้อมูลทางดิจิทัล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจส่งผลให้เจ้าของข้อมูลถูกล่วงละเมิดสิทธิ์และความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น เป็นเหตุให้รัฐบาลต้องเข้ามาควบคุมดูแล โดยหัวข้อหลัก ๆ ใน พ.ร.บ. ได้แก่

 

  • การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล – ผู้เก็บข้อมูลจะเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ไม่ได้เด็ดขาด หากไม่ได้รับการยินยอม จะต้องมีมาตรการชัดเจนในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เก็บไว้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าหากมีการโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศนั้น ประเทศปลายทางก็จำเป็นที่จะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลที่ได้มาตรฐานเช่นกัน ทั้งนี้จะต้องมีการทำรายงานวัดผลการป้องกันข้อมูลนั้น ๆ

 

  • การชี้แจงวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล – ผู้เก็บข้อมูลจะต้องไม่นำข้อมูลที่เก็บไว้ไปใช้นอกเหนือจากที่ได้ทำการชี้แจงกับเจ้าของข้อมูล ในการเก็บข้อมูลทุกส่วน ผู้ที่ทำการเก็บข้อมูลจะต้องชี้แจงอย่างชัดเจนว่าจะนำไปใช้ในส่วนใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานหรือการนำไปเปิดเผยก็ตาม

 

  • เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ในการเรียกร้อง – เจ้าของข้อมูลนั้น ๆ สามารถติดต่อองค์กรหรือบุคคลที่ทำการเก็บข้อมูลได้ตลอด โดยสิทธิ์ในส่วนนี้รวมไปถึงสิทธิ์ในการขอเข้าถึงและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง อีกทั้งยังสามารถขอให้เปิดเผยที่มาในการได้รับข้อมูลจนกระทั่งเรียกร้องให้ทำการลบทำลายข้อมูลดังกล่าวได้อีกด้วย โดยผู้เก็บข้อมูลนั้นต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ห้ามปฏิเสธแต่อย่างใด ยกเว้นจะมีคำสั่งศาลให้ปฏิเสธเท่านั้น

 

  • มีบทลงโทษทางอาญาหากเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับการยินยอม – หากผู้เก็บข้อมูลไม่ทำตามกฎข้อบังคับดังกล่าว หรือมีการละเมิด มีการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ก็มีสิทธิ์ที่จะต้องโทษทางอาญาได้ โดยบทลงโทษคือการจำคุก 6 เดือน ถึง 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

จากข้อกำหนดข้างต้นที่ให้องค์กรหรือผู้ที่มีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูล การใช้งาน หรือมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ นั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดเจนเสียก่อนจึงจะนำข้อมูลส่วนนั้นไปใช้งานได้ ดังนั้นผู้ที่ได้รับผลกระทบที่สุดนั้นก็คือองค์กรทุกภาคส่วน ซึ่งให้เวลาองค์กรในการเตรียมแผนรับมือเพียง 1 ปี ตั้งแต่ออก พ.ร.บ. โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2563

ฉะนั้น ภายใต้เนื้อหาของ พ.ร.บ. ฉบับนี้ บุคคลากรภายในองค์กรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษารายละเอียดในส่วนนี้ให้ถี่ถ้วนและให้ความร่วมมือ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภัยคุกคามนั้นขึ้น ในฐานะที่ Stream เรามีความเชี่ยวชาญในการเป็นที่ปรึกษาด้านไอทีมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และมีโซลูชั่นด้านความปลอดภัยของข้อมูลและระบบไซเบอร์แบบครบวงจร พร้อมให้บริการองค์กรของคุณ

 

โซลูชั่นของเราครอบคลุมทุกมิติ ได้แก่

 

  • Data Security Platform ช่วยปกป้องข้อมูลไม่ให้รั่วไหล ด้วยการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลขั้นสูง และยังช่วยในการบริหารจัดการผู้ที่จะเข้าถึงข้อมูล เพื่อดูหรือใช้ข้อมูลดังกล่าว โดยการแบ่งระดับของ user รวมไปถึง admin แต่ละคน ให้มีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลที่แตกต่างกัน
    นอกจากนั้นยังมั่นใจได้ว่า ระบบของเรามีการบริหารจัดการ key (กุญแจดิจิทัล) เพื่อให้มั่นใจว่ากุญแจของแต่ละ ระบบ อาทิ Database, File Server และ Cloud อยู่ในที่ปลอดภัย และยังสามารถใช้เป็นระบบตรงกลางที่เชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก รวมถึงสามารถเข้ารหัสข้อมูลได้พร้อมกันทั้งหมด ไม่ต้องทำทีละ application จึงลดต้นทุนและสะดวกในการบริหารจัดการ เหมาะอย่างยิ่งกับองค์กรที่กำลังมองหาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแบบครบวงจร

 

  • Privileged Access Security สถิติข้อมูลรั่วไหล (Data breach) ในปี 2561 ที่ผ่านมา พบว่าข้อมูลที่รั่วไหลเกิดขึ้นจากการถูกโจมตีในรูปแบบที่พบมากที่สุดคือการขโมยตัวตน (Identity Theft) หรือการถูกปลอมแปลงสิทธิ์เพื่อเข้าถึงระบบขององค์กรนั่นเอง เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการปกป้องและควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงหรือ Privileged Account ที่ใช้ในการเข้าถึงระบบสำคัญขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล หรือแอปพลิเคชัน เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และเนื่องจากในปัจจุบันการโจมตีในรูปแบบที่พบมากเป็นลำดับต้น ๆ คือการโจมตีด้วยสิทธิของผู้ดูแลระบบหรือสิทธิสูงสุดของระบบ โดยผู้โจมตีจะพยายามขโมยรหัสผ่านของระบบสำคัญ ๆ ภายในองค์กร และพยายามกระจายตัวอยู่ในองค์กรให้ได้นานที่สุด (Lateral Movement) เพื่อเสาะหาข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลทางการเงิน, ข้อมูลพนักงาน, ข้อมูลลูกค้า เป็นต้น จากนั้นจึงขโมยข้อมูลออกไปเปิดเผยและสร้างความเสียหายต่อองค์กรต่อไป โดยโซลูชั่นนี้จะสามารถเปลี่ยนรหัสการใช้งานได้ตามนโยบายขององค์กร ควบคุมสิทธิ์ในการใช้งานระบบให้สามารถใช้งานได้โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ยกเลิกใช้รหัสผ่านตั้งต้น และมีการเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ดูแลระบบอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงสามารถเก็บบันทึกการเข้าถึงระบบในรูปของ Log และวิดีโอซึ่งสามารถดูย้อนหลังได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการวิเคราะห์พฤติกรรมการเข้าถึงระบบต่าง ๆ ของผู้ดูแลระบบ (Admin Behavior Analytics) เพื่อตรวจจับและป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ทั้งยังสามารถแจ้งเตือนและหยุดการใช้งาน Privileged Account ที่ผิดปกติได้อีกด้วย นอกจากนี้โซลูชั่นนี้จะรองรับการปกป้อง Privileged Account ทั้งบนระบบที่เป็น On-premises และระบบ Cloud ขององค์กร รวมไปถึงสามารถปกป้อง Credentials ของแอปพลิเคชั่นเชิงธุรกิจและภัยคุกคามอันเนื่องมาจาก Robotic Process Automation ได้อีกด้วย

 

 

  • DNS Security Assessment and Data Exfiltration ป้องกัน Malware ที่มาใช้ DNS Server เป็นช่องทางในการโจรกรรมข้อมูลสำคัญ โดยเมื่อใดที่ Malware ได้เข้ามาฝังตัวในองค์กรแล้ว และเข้าถึงข้อมูลสำคัญขององค์กรรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล มันก็จะเริ่มการปฏิบัติการโดยติดต่อสื่อสารกลับไปยัง C&C Server เพื่อหวังจะขโมยข้อมูลสำคัญนั้นส่งออกไปข้างนอกองค์กร ผ่านช่องทาง DNS ที่เป็นจุดเปราะบาง โซลูชั่น DNS Security Assessment and Data Exfiltration จะช่วยทำให้ DNS เปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเป้าโจมตีและช่องทางการจารกรรม มาเป็นผู้ป้องกันการโจมตี ด้วยการตรวจจับความไม่ชอบมาพากลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นในระดับ Signature Based, Reputation Based รวมถึง Behavior Based ด้วย โดยการใช้ AI และ Machine Learning ที่ติดตั้งสำเร็จมากับ DNS เพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ จะปกป้องการถูกหลอกให้เข้าถึงไซต์อันตรายต่างๆ และป้องกันระบบ DNS ที่สำคัญขององค์กร โดยจะบล็อกการเข้าถึงโดเมนหรือไซต์ที่อันตรายตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นการเชื่อมต่อกับไซต์เหล่านั้น รวมทั้งยังสามารถสกัดอุปกรณ์ที่ติดมัลแวร์ในการรับส่งข้อมูล C&C Server ของแฮกเกอร์ตั้งแต่เริ่มแรก และยังสามารถป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลออกสู่ภายนอกผ่านทาง DNS Query อีกด้วย

 

  • Vulnerability Risk Management (VRM) เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่เกิดจากช่องโหว่ของระบบ ทุกวันนี้ Attacker ที่เข้ามาขโมยข้อมูลอันสำคัญไปนั้นจำนวนไม่น้อยมาจากการเจาะระบบเข้ามาผ่านช่องโหว่ของระบบเอง ซึ่งถ้าไม่มีการบริหารจัดการช่องโหว่ที่ดีพอ ไม่มีการมั่นตรวจสอบ อัปเดท ประเมินช่องโหว่บนระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อวางแผนดำเนินการปิดช่องโหว่ที่พบเหล่านั้นด้วยการ Patching ย่อมเกิดเป็นความเสี่ยงในการตกเป็นเป้าหมายของกลุ่ม Attacker ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

 

  • Web Security เพื่อป้องกันผู้ใช้จากภัยคุกคามบนอินเตอร์เน็ต และช่วยให้องค์กรสามารถบังคับใช้นโยบายเพื่อควบคุมการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ตามข้อกำหนดต่างๆ ขององค์กรได้
    รวมถึงใช้ตรวจสอบการใช้งานของบุคคลากรภายในองค์กรโดยจะมีการทำ Logging ไว้เพื่อตรวจสอบการโพสข้อมูลอันระบุไว้ใน พ.ร.บ.
    ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ ออกไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ ว่าเกิดจากบุคคลใด เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ด้วยวิธีการหรืออุปกรณ์อะไร ทั้งนี้จะต้องสามารถระบุตัวตนผู้กระทำ และทำการเก็บข้อมูลไว้ยืนยันการกระทำเหล่านั้นได้ และตัวระบบจะสามารถปกป้องมิให้เกิดการกระทำความผิดดังกล่าวในการเผยแพร่ออกไปสู่ภายนอกเพื่อปกป้ององค์กร และเพื่อความปลอดภัยในกรณีเครื่องภายในองค์กรถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีด้วย

 

  • Email Security เป็นการรักษาความปลอดภัยด่านแรกบนระบบเครือข่ายขององค์กรซึ่งทำหน้าที่เพื่อปกป้องมิให้ Mail Domain หรือ Mail server หยุดชะงักหรือกระทำการส่ง Email อันเป็นการก่อกวน สร้างความรำคาญ (Spam) ให้ผู้อื่น ลดจำนวนอีเมล์สแปมที่ไม่ต้องการ และสามารถตรวจสอบแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบอัพเดตข้อมูลสแปมและไวรัสอัตโนมัติ รวมทั้งยังสามารถป้องกันปัญหาการโจมตีในรูปแบบต่าง ๆ ได้อีก และระบบรักษาความปลอดภัยอีเมลยังได้รับการเสริมด้วยระบบเข้ารหัสอีเมล์เพื่อเป็นการป้องกันข้อมูลสำคัญไม่ให้รั่วไหล หรือการแอบอ้างใช้ชื่อโดเมนอีเมลอีกด้วย ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการตรวจสอบการปกป้องอีเมลอันตรายที่ส่งเพื่อโจมตี ยึดเครื่อง หรือขโมยข้อมูลบนเครื่องของผู้ใช้งานได้ เป็นลักษณะการส่งไฟล์อันตราย หรือ Phishing Mail ซึ่งก็คือ ภัยอินเตอร์เน็ตที่ใช้วิธีการสร้างอีเมล์ต่าง ๆ หรือเว็บไซต์ปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้งาน เกิดความสับสนในการใช้เว็บ หลงเข้ามาทำธุรกรรมต่าง ๆ บนเว็บไซต์ปลอม ทำให้เจ้าของเว็บปลอมนั้นได้ข้อมูลส่วนตัวที่ผู้ใช้กรอกให้ไป

 

  • Intrusion Prevention System (IPS) เพื่อปกป้องไม่ให้บุคคลากรภายในองค์กรเอง หรือผู้มีความประสงค์ร้ายกระทำการนำเครื่องลูกข่ายภายในองค์กรไปทำการโจมตีเป้าหมายในรูปแบบต่าง ๆ หรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ระบบเกิดความเสียหาย ระบบหยุดชะงัก ชะลอ โดนขัดขวาง โดยอุปกรณ์จะทำการปกป้องภัยอันตราย จากความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และช่วยตรวจสอบภัยคุกคามจากภายใน รวมทั้งกรณีเป็นผู้สร้างความเสียหายต่อภายนอกด้วย

 

  • Data Encryption เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณด้วยการเข้ารหัสข้อมูลในรูปแบบไฟล์ โฟลเดอร์ ข้อมูลที่จัดเก็บอยู่บน Disk, Storage อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Server, Desktop, Laptop, Tablet, Smartphone รวมถึงข้อมูลที่อยู่บน Cloud Storage โดยกำหนดบังคับใช้นโยบายด้านความปลอดภัยจากศูนย์กลางอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล

 

Cybersecurity

  • Security Information and Event Management (SIEM) เพื่อตอบโจทย์การเก็บข้อมูลการจราจรจากทุก ๆ อุปกรณ์ในระบบเครือข่าย โดยจะแบ่งการเก็บข้อมูลทั้ง ผู้ใช้ และช่วงเวลาที่ใช้ โดยอุปกรณ์ที่ต้องมีเป็นอย่างน้อยเพื่อให้ได้ข้อมูลตามที่พรบ.ต้องการ เช่น การตรวจสอบการเข้าออกระบบเครือข่าย (Firewall), การตรวจสอบการเข้าออก Web Site (Proxy), การยืนยันตัวตนเข้าระบบหรือใช้งาน (Authenticate), การแจก IP ของระบบ (DHCP & DNS), การตรวจสอบการใช้งาน Email (Email Security Gateway) เป็นอย่างน้อย

 

ด้วยโซลูชั่นด้านความปลอดภัยทางไอทีข้างต้นทั้งหมดของ สตรีม ไอ.ที. คอนซัลติ้ง จะทำให้องค์กรเตรียมพร้อมและรับมือกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้อย่างทันท่วงทีแน่นอน

 

หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจโซลูชั่นด้านดิจิทัลอื่น ๆ สามารถติดต่อได้ที่ marketing@stream.co.th หรือโทร. 02-679-2233

0 5 Continue Reading →

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save