Rabbit MQ ตอนที่ 2 – Exchanges, Routing Keys, and Bindings

สวัสดีครับ ในตอนที่แล้ว เราได้แนะนำ Rabbit MQ กันไปแล้ว สำหรับตอนที่ 2 นี้ เราจะเจาะลึกให้ละเอียดขึ้นอีกว่า องค์ประกอบของ Rabbit MQ มีอะไรบ้าง

Rabbit MQ มีองค์ประกอบอย่างไร

ภาพจาก: Introduction to RabbitMQ, Randhir Kumar, Software Consultant, Knoldus Inc.

 

องค์ประกอบของ Rabbit MQ มีดังนี้

  • Producer : โปรแกรมที่เป็นผู้ส่ง Message (Publish Message) โดยที่ Message อาจจะเป็นงานที่ต้องการส่งให้ระบบอื่นไปทำ หรืออาจเป็นการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ระบบอื่น ๆ รับทราบ
  • Exchange : ทำหน้าที่รับ Message และนำส่ง Message ไปให้ Queue ต่าง ๆ โดยพิจารณาจาก Routing Key ซึ่งเป็น Attribute ในแต่ละ Message
  • Binding : คือ การกำหนด “Link”  ว่า Queue ต่าง ๆ จะรับ Message ใดจาก Exchange โดย Binding จะเกี่ยวข้องกับ Routing Key และ Header
  • Queue : ทำหน้าที่คล้ายตู้จดหมาย (Post Box) ซึ่งอยู่ภายใน Rabbit MQ  เป็นที่เก็บ Message ทุกอย่างที่ผ่าน Rabbit MQ เข้ามาและออกไปยัง application โดยอาศัย Memory และ Disk ของเครื่อง Host ทำหน้าที่เป็น Buffer สำหรับเก็บ Message ดังนั้นปริมาณ Message ที่เก็บได้ ก็จะขึ้นกับขนาดของ Memory และ Disk ที่มี ในการใช้งาน Queue นั้น สามารถให้หลาย ๆ Producer ส่ง Message เข้าไปที่ Queue เดียวกันได้ และสามารถให้หลาย ๆ Consumer รับ Message จาก Queue เดียวกันได้เช่นกัน
  • Consumer : โปรแกรมที่เป็นผู้รอรับ Message (Consume Message) โดยอาจจะเป็นระบบที่รับงานจาก Producer มาดำเนินการ หรือรับข้อมูลข่าวสารมาอัพเดตในระบบ หรือส่งต่อให้ระบบอื่น

 

ประเภทของ Exchange

Rabbit MQ รองรับ Exchange ได้หลายประเภท เช่น Direct, Fanout, Topic, Header เป็นต้น แต่ละประเภทจะมีวิธีต่างกันในการกำหนด Binding เพื่อเชื่อมโยงกับ Queue

ภาพจาก: https://www.cloudamqp.com/blog/part1-rabbitmq-best-practice.html

 

1. Direct Exchange

Direct Exchange จะส่ง Message โดยอาศัย Routing Key เป็นตัวกำหนดว่า Message จะถูกส่งอย่างเจาะจงไปยัง Queue ที่มี Binding Key ตรงกับ Routing Key เท่านั้น

ตัวอย่างเช่น ระบบงานเพื่อประมวลผล pdf_events ประกอบด้วย Direct Exchange 1 ตัว และ Queue 2 ตัว

  • Queue A สำหรับทำงาน pdf create และมี routing key คือ pdf_create
  • Queue B สำหรับทำงาน pdf log และมี routing key คือ pdf_log

การทำงานเริ่มจาก Exchange ได้รับ Message จาก Producer เข้ามา Exchange จะตรวจสอบ Binding key ที่แนบมากับ Message ถ้า Routing key เป็น pdf_create ก็จะส่ง Message ไปยัง Queue A (เนื่องจากมี Binding key = pdf_create ตรงกัน) หรือถ้า Routing key เป็น pdf_log ก็จะส่งไปยัง Queue B (เนื่องจากมี Binding key = pdf_log ตรงกัน)

 

ภาพจาก: https://www.cloudamqp.com/blog/part4-rabbitmq-for-beginners-exchanges-routing-keys-bindings.html

 

2. Fanout Exchange

Fanout Exchange ทำการส่ง Message ไปยังทุก Queue ที่ผูกกับ Exchange นั้น โดยไม่สนใจ Routing Key วิธีการนี้เหมาะสำหรับงานลักษณะ Broadcasting

ภาพจาก: https://www.cloudamqp.com/blog/part4-rabbitmq-for-beginners-exchanges-routing-keys-bindings.html

 

ตัวอย่างการใช้งาน #1

เมื่อระบบประมวลผลข่าวกีฬา (Sports News)  ได้บันทึกข้อมูลข่าวกีฬาใหม่แล้ว ทำการ Publish Message นี้ (ซึ่งมีรายละเอียดของข่าว) ลงใน Fanout Exchange  จากนั้น Fanout Exchange ทำการ Broadcast ไปยังระบบช่องทางการรายงานข่าวต่างๆ เช่น ช่องทาง Web, Mobile, TV, Radio ซึ่งแต่ละช่องทางสามารถมีวิธีการนำข้อมูลรายละเอียดของข่าวไปใช้งานแตกต่างกัน

ตัวอย่างการใช้งาน #2

เมื่อระบบงาน HR ได้บันทึกข้อมูลพนักงานใหม่แล้ว ทำการ Publish Message ลงใน Fanout Exchange ซึ่ง Messageประกอบด้วยข้อมูลของพนักงานใหม่ จากนั้น Fanout Exchange ทำการ Broadcast ไปยังระบบงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบการจองคอมพิวเตอร์ เพื่อจองเครื่องให้กับพนักงานใหม่, ระบบการพิมพ์นามบัตร เพื่อจัดพิมพ์นามบัตรให้กับพนักงานใหม่, ระบบการฝึกอบรม เพื่อจองวันปฐมนิเทศพนักงานใหม่ เป็นต้น ระบบงานเหล่านี้สามารถรับ Message ไปประมวลผลได้ทันที นอกจากนี้ระบบงาน HR ซึ่งเป็น Publisher ก็ทำงานแบบ Asynchronous คือสามารถทำงานอื่นของตนเองต่อได้ โดยไม่ต้องรอผลลัพธ์จากระบบงานอื่นๆ กลับมาก่อน

 

3. Topic Exchange

Topic Exchange เหมาะสำหรับงานลักษณะ Multicast เพื่อส่ง Message ให้กับ Consumer บางส่วน โดยอาศัยการ Match Pattern ของ Routing Key กับ Binding Key โดย Routing Key มีลักษณะเป็นคำคั่นด้วยจุด เช่น agreements.eu.stockholm

ภาพจาก: https://www.cloudamqp.com/blog/part4-rabbitmq-for-beginners-exchanges-routing-keys-bindings.html

 

ตัวอย่างเช่น ระบบงานสำหรับประมวลผล agreements  ใช้ Topic Exchange และ Queue 3 ตัว ดังนี้

Queue Aสำหรับรับ Message ที่เกี่ยวกับ agreement ของ berlin เท่านั้นและกำหนดrouting key = agreements.eu.berlin.#
Queue Bสำหรับรับ Message เกี่ยวกับ agreement ทุกอย่างrouting key = agreements. #
Queue Cสำหรับรับ Message เกี่ยวกับ agreement ของ headstorerouting key = agreements.*.headstore

หมายเหตุ:

  • เครื่องหมาย * หมายถึงตำแหน่งนี้ต้องมีคำปรากฏ 1 คำ
    • เช่น binding key = “agreements.*.*.b.*” หมายถึง คำที่หนึ่งเป็น agreements, คำที่สี่เป็น b, ส่วนคำที่สอง สาม และห้า เป็นคำอะไรก็ได้แต่ต้องมี
  • เครื่องหมาย # หมายถึงตำแหน่งนี้จะมีคำใดๆปรากฏหรือไม่มีเลยก็ได้
    • เช่น binding key = “agreements.eu.berlin.#” หมายถึง คำที่หนึ่งเป็น agreements, คำที่สองเป็น eu, คำที่สามเป็น berlin, ส่วนคำที่สี่จะมีหรือไม่มีก็ได้

 

Example Scenario

 

Message #1 เข้ามา

ด้วย routing key = agreements.eu.

berlin.headstore

Message #1 จะถูกส่งไปยัง

Queue A เนื่องจาก 3 คำแรก (agreements, eu, berlin) ตรงกับ binding key

agreements.eu.berlin.headstore  VS  agreements.eu.berlin.#

 

Queue B เนื่องจากคำแรก (agreements) ตรงกับ binding key

agreements.eu.berlin.headstore  VS agreements.#

 

Queue C เนื่องจากคำที่หนึ่งและสี่ (agreements, headstore) ตรงกับ binding key

agreements.eu.berlin.headstore  VS agreements.*.headstore

 

Message #2 เข้ามา

ด้วย routing key = agreements.eu.

berlin.tailstore

Message #2 จะถูกส่งไปยัง Queue A, B

Queue A เนื่องจาก 3 คำแรก (agreements, eu, berlin) ตรงกับ binding key

agreements.eu.berlin.tailstore  VS  agreements.eu.berlin.#

 

Queue B เนื่องจากคำแรก (agreements) ตรงกับ binding key

agreements.eu.berlin.tailstore  VS agreements.#

 

Message #3 เข้ามา

ด้วย routing key = agreements.us.

headstore

Message #3 จะถูกส่งไปยัง Queue B, C

Queue B เนื่องจากคำแรก (agreements) ตรงกับ binding key

agreements.us.headstore  VS agreements.#

 

Queue C เนื่องจากคำที่หนึ่งและสี่ (agreements, headstore) ตรงกับ binding key

agreements.us.headstore  VS agreements.*.headstore

 

 

 

4. Header Exchange

Header Exchange อาศัยข้อมูลใน Header ในการกำหนดเส้นทางการส่ง Message โดยไม่ได้อาศัย Routing Key

ภาพจาก: https://www.cloudamqp.com/blog/part4-rabbitmq-for-beginners-exchanges-routing-keys-bindings.html

 

ตัวอย่างเช่น ระบบงานสำหรับประมวลผล agreements  ใช้ Header Exchange และ Queue 3 ตัว

Queue Aสำหรับรับ Message ที่รูปแบบเป็น pdf และเป็นข้อมูลประเภท reportx-match = all
Queue Bสำหรับรับ Message ที่รูปแบบเป็น pdf และเป็นข้อมูลประเภท logx-match = any
Queue Cสำหรับรับ Message ที่รูปแบบเป็น zip และเป็นข้อมูลประเภท reportx-match = all

X-match = any หมายถึง ต้องมี Header value อย่างน้อย 1 ตัว ใน Message ที่จะต้อง Match กับ Binding

ส่วน X-match = all หมายถึงทุก Header value ใน Message จะต้อง Match กับ Binding

Example Scenario

Message #1 มี Header Argument format=pdf, type=report–        Message #1 ถูกส่งไป Queue A เนื่องจาก Message Header ทั้ง format: pdf, type: report ตรงกับ Binding ทั้งหมดของ Queue A (X-Match = all)

–        Message #1 ถูกส่งไป Queue B ด้วย เนื่องจาก Message Header format: pdf, type: report ตรงกับ Binding ของ Queue B อย่างน้อย 1 ตัว (X-Match = any)

–        Message #1 ไม่ถูกส่งไป Queue C เนื่องจาก Queue C กำหนด X-Match = all คือต้องมีทั้ง format: zip และ type: log

Message #2 มี Header Argument format=pdf–        Message #2 ถูกส่งไป Queue B เนื่องจาก Message Header มี format: pdf ตรงกับ Binding 1 อย่าง (X-Match = any)

–        Message #2 ไม่ถูกส่งไป Queue A เนื่องจาก Queue A กำหนด X-Match = all คือต้องมีทั้ง format: pdf และ type: report

–        Message #2 ไม่ถูกส่งไป Queue C เนื่องจาก Queue C กำหนด X-Match = all คือต้องมีทั้ง format: zip และ type: log

 

Message #3 มี ด้วย Header Argument format=zip, type=log–        Message #2 ถูกส่งไป Queue B เนื่องจาก Message Header มี type: log ตรงกับ Binding 1 อย่าง (X-Match = any)

–        Message #2 ไม่ถูกส่งไป Queue A เนื่องจาก Queue A กำหนด X-Match = all คือต้องมีทั้ง format: pdf และ type: report

–        Message #2 ไม่ถูกส่งไป Queue C เนื่องจาก Queue C กำหนด X-Match = all คือต้องมีทั้ง format: zip และ type: log

 

 

ทั้งหมดนี้ก็คือส่วนสำคัญของ Rabbit MQ ครับ หากใครยังไม่ทันได้อ่านตอนที่ 1 ไปติดตามกันในลิ้งก์ https://www.stream.co.th/rabbit-mq-part1/ นะครับ

สนใจโซลูชั่นด้านดิจิทัล สามารถติดต่อเราได้ที่อีเมล Marketing@stream.co.th หรือโทร. 02-679-2233 ครับ

 

 

Related Posts

Scroll to Top

Search

PDPA Icon

We use cookies to improve the performance and experience of using our website. You can find more details at Privacy Policy and manage your privacy settings by clicking Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by enabling/disabling cookies for each category as needed, except for necessary cookies.

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Necessary cookies
    Always Active

    Necessary cookies are essential for the functioning of the website, allowing you to use and browse the site normally. You cannot disable these cookies in our website's system.
    Cookies Details

  • Analytical Cookies for Enhancing User Experience

    These cookies are used to collect information about website usage, such as the number of visitors, popular web pages, and browsing behavior, which helps the website owner improve the user experience.
    Cookies Details

  • Functional Cookies for Remembering User Settings

    These cookies help enhance the website's functionality by remembering user settings such as username, language, region, or customizations.
    Cookies Details

Save