Skip to Content

Blog Archives

Magento 2.0 – What’s new?

Magento 2.0

Magento 2.0 – What’s new?

Next Generation Digital Commerce Platform

มีข้อสงสัยกันเข้ามามากเกี่ยวกับ Magento 2.0 ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เร็วขึ้นมั้ย รองรับเทคโนโลยีอะไรบ้าง UI ละ แล้ว Framework เปลี่ยนมั้ย เลิกใช้ prototype หรือยัง Theme สวยมั้ย และจะพัฒนาต่อไปในทิศทางไหน โน่น นี่ นั่น บลา บลา บลา วันนี้เรามาลองดูกันครับ

ก่อนอื่น ผู้อ่านหลายๆ ท่านน่าจะทราบอยู่แล้วว่า Magento เป็น eCommerce Solution ที่อยู่ในกลุ่มผู้นำของตลาด ทั้ง Open Source และ Enterprise เดี๋ยวเราลองมาสรุปภาพรวมของ Magento โดยคร่าวๆกันก่อน

  • Magento เริ่มต้นพัฒนาในปี 2007 โดย Varian Inc.
  • 2008 Beta Software ชุดแรกถูกส่งออกมา
  • 2010 eBay Inc. เข้ามาสนับสนุนโดยถือหุ้น 49% 1
  • 2011 ถูกซื้อเข้าไปอยู่ใน eBay Inc.
  • 2015 Magento ถูกควบรวมโดย Permira Funds 2
  • 2015 Official launch Magento 2.0

Magento 2 / A New Era Of Commerce Innovation 3

ใน blog ของ magento เอง ได้กล่าวไว้ว่า Magento 2.0 เป็น Next Generation Digital Commerce Platform ที่จะมาช่วยใน การส่งเสริมตราสินค้า, การค้าปลีก หรือ การทำธุรกิจ ทั้งแบบ B2C และ B2B โดยมุ่งเน้นไปที่ความรวดเร็วในการส่งมอบ และความคุ้มค่าของการลงทุน บนระบบ digital commerce ในแบบ Omnichannel

Magento 2.0 ยังคงเพิ่มความสามารถในการทำงานได้รวดเร็วขึ้น, มีความสามารถใหม่ๆที่จะช่วยในการเพิ่มยอดขาย อีกทั้งมีการเพิ่มคุณภาพของตัวระบบ Magento 2.0 เองด้วย

Magento 2.0 ยังคงมี 2 เวอร์ขั่นให้เลือกใช้เช่นเดิม คือ Magento Enterprise Edition 2.0 และ Magento Community Edition 2.0

Enterprise-grade Scalability and Performance

ใน Magento 2.0 ความเร็วในการโหลดหน้าเวปจะเร็วขึ้นราวๆ 50% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ Magento 2.0 ใส่ Vanish มาให้ตั้งแต่ on-the-shelf Software เลย นอกจากนี้ Admin Panel ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับการทำงานของผู้ดูแลระบบได้พร้อมๆกันได้มากขึ้น

Secure Payments

Magento 2.0 มาพร้อมกับระบบการจ่ายเงินของ Paypal, Braintree และ Authorize.net และ Magento Enterprise Edition 2.0 ยังรอบรับ Worldpay และ CyberSource เพิ่มขึ้นอีก

ระบบ security ที่ดีของ Magento 2.0 ยังมีผลให้ การขอ PCI compliance ทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

New default theme and admin GUI

บน Magento 2.0 มีการใช้ Frontend theme ใหม่ codename “Luma” ซึ่งเน้นมุมมองที่สะอาด แต่เตะตา มีการเปลี่ยนแปลงจาก Magento 1 – Madison Island theme พอสมควรทั้งทางด้านโครงสร้างภาพบนหน้าจอ การรองรับ Responsive แบบสมบูรณ์กว่าเดิม และความเร็วที่เพิ่มขึ้น

magento 2.0

ในด้าน Admin Panel ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เน้นการใช้งานที่ง่ายขึ้น การตอบโต้ระหว่างผู้ใช้กับระบบทันสมัยมากขึ้น

Magento 2.0

No more Prototype

จากวันที่ Magento เริ่มพัฒนา ในวันนั้น jQuery ยังคงไม่แข็งแรงพอที่จะถูกเลือกมาใช้งาน ในวันนั้น Prototype จึงถูกเลือกมาใช้งานเป็น JavaScript framework หลัก และยังคงถูกใช้งานเป็นหลักใน Magento 1 จนวันนี้ Magento 2.0 ได้ก้าวออกมาและได้ใช้ jQuery เป็นตัวหลักแทน (เย้ เย้ เย้ ขอเสียงปรบมือด้วยครับ)

magento

Magento 2.0 Roadmap

การที่ Magento มี roadmap ที่ชัดเจน มีผลให้การ implement ระบบ eCommerce ทำได้ดียิ่งขึ้น เพราะในยุค digital ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีต่างๆค่อนข้างเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ตัวผู้ค้าเองก็ต้องมีการวางแผนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน หัวข้อหลักๆที่น่าสนใจ

  • Elasticsearch support
  • Content staging
  • B2B specific enhancements
  • Personalization capabilities
  • Enhanced analytics capabilities
  • and much, much more.

Magento 2.0 อยู่บน github แล้วนะครับ

https://github.com/magento/magento2

Magento Enterprise Edition 2.0 Pricing Model

อาจจะไม่สามารถลงรายละเอียดของ Pricing Model ตรงนี้ได้ แต่คงกล่าวได้ว่า Magento Enterprise Edition 2.0 มีการเปลี่ยน Pricing Model จากเดิม (per instance) โดยราคา license จะเปลี่ยนไปโดยอิงกับยอดขายสินค้าเป็นหลัก4 ร้านค้าที่ยอดขายน้อย ค่า license อาจจะถูกกว่าร้านค้าที่มียอดขายมาก ราคาดังกล่าวสามารถแข่งกับ Enterprise eCommerce Platform อื่นๆได้อย่างแน่นอน หากท่านมีความสนใจที่จะใช้บริการ สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย5

stream magento

0 0 Continue Reading →

ผู้ขับรถ uberX ต้องจ่าย Uber เท่าไหร่?

เมื่อตอนเริ่มต้นในปี 2012 Uber คิดค่าธรรมเนียม 20% จากค่าโดยสาร หรือ 1 ใน 5… แต่ขณะนี้ สำหรับผู้ขับรถ uberX ในบางเมือง ทาง Uber เริ่มทดลองเพิ่มค่าธรรมเนียมเป็น 25-30% แล้วค่ะ

 

uberX

 

ผู้ขับรถหน้าใหม่แทบไม่ทราบด้วยซ้ำว่า Uber คิดค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ และบางท่านยังคิดว่าเป็น 20% อยู่เลย เพราะไม่ได้ค้นคว้าจากข้อมูลล่าสุดของแต่ละเมือง

แต่แม้มีการขึ้นค่าธรรมเนียม Uber ก็ยังระบุว่ามีผู้ขับรถเข้าร่วมโครงการมากขึ้นตลอดเวลา Uber เคยยกตัวอย่าง เช่น นักศึกษาที่เรียนจบมหาวิทยาลัย แล้วยังหางานไม่ได้ ก็อาศัยได้งานขับรถ Uber นี่แหละช่วยประทังค่าใช้จ่ายประจำวันไปได้ บางท่านก็เป็นผู้ที่เกษียณแล้ว แต่หารายได้เสริม บางท่านก็มีกิจการเล็กๆของตัวเอง และขับรถ Uber ในวันที่ว่าง ก็เพื่อหารายได้เสริมเช่นกัน

แต่แน่นอน กระแสต้านจากผู้ขับรถแท็กซี่ก็ยังแรงอยู่ในทุกเมือง ล่าสุด รัฐแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินแล้วว่าผู้ขับรถถือเป็น “ลูกจ้าง” ซึ่งภาระของ “ผู้ว่าจ้าง” ต้องสูงขึ้นแน่ นี่อาจเป็นเหตุผลที่ Uber ต้องขึ้นค่าธรรมเนียมในบางรัฐในอเมริกา

 

uberTAXI

ในอีกด้าน เดี๋ยวนี Uber ก็มีการร่วมมือกับค่ายแท็กซี่บ้างแล้ว และสามารถเลือกได้ระหว่างรถ uberX หรือ uberTAXI ส่วน UberBLACK นั้นไม่ต้องพูดถึง ราคาแพงกว่าเยอะ ประมาณเทียบเท่ารถลีมูซีนบ้านเรา ซึ่งจุดนี้ ผู้เขียนคิดว่าดี เพราะสร้างความชัดเจนแก่ผู้บริโภค เพราะเคยเจอมากับตัวว่าเลือก uberX แต่ได้มาเป็นรถแท็กซี่ การแบ่งชัดเจนแบบนี้ ผู้บริโภคสามารถมีทางเลือกที่ตนเองสะดวก และในอีกด้านหนึ่ง ทั้งผู้ขับอิสระ และค่ายแท็กซี่ก็ไม่ต้องมาแย่งผู้โดยสารกันแบบที่ผ่านมา

…มีเรื่องขำๆเล่าให้ฟังคือ ปกติลูกค้าจะใจร้อนพอ Uber มาช้า แต่เห็นแท็กซี่มาก่อน ก็กระโดดขึ้นเลย และคงหาทางกด cancel ที่จอง Uber ไป ทริปล่าสุดที่ผู้เขียนไปอเมริกา ก็เจอแท็กซี่ที่รับจองจาก Uber รีบโทรแจ้งศูนย์ขออนุญาตทิ้งผู้โดยสารที่จองมา เพราะหาตัวไม่เจอ และขอรับเราลูกค้าตัวเป็นๆที่อยู่ตรงหน้าเลย ไปไกลเงินดีเสียด้วย เหรียญทุกอย่างมีสองด้านค่ะ -*-

และที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่บ้างก็คือความปลอดภัยของผู้ใช้บริการรวมถึงตัวผู้ขับรถเอง ซึ่งแม้มีการสอบทานประวัติและประกัน แต่ผู้ใช้บริการหลายท่านก็ยังไม่วางใจนัก

ตอนนี้เห็นว่ามีคู่แข่งเกิดจากค่ายใหญ่ในจีนแล้ว และในเอเชียเราก็มี Grab Taxi มาลองติดตามวิวัฒนาการของ Uber และ Sharing economy อื่นๆ เช่น AirBnB กันต่อไปได้ที่นี่ – Stream Blog – ค่ะ

[excerpt]

Since it launched in 2012, Uber’s popular, low-cost service UberX has always had a 20% commission, where Uber takes a one-fifth of the fare (or, in Uber’s parlance, drivers pay a 20% fee to license the technology).

But last year, Uber started testing whether it could charge drivers more for the same thing. Any drivers in San Francisco who signed up after September 2, 2014 had to fork over 25% of their pay to Uber instead. Then in May, Uber put a small group of new San Francisco and San Diego drivers in a pilot program with commissions that went up to 30%.

Rising commissions aren’t an experiment anymore. In the last few months, Uber has quietly bumped up commissions from 20% to 25% for new drivers in five cities. New York City drivers who joined as of April will pay 25%, as well as drivers in Toronto, Indianapolis, Boston  and Worcester, Mass., who joined as of August, the company confirmed.

San Francisco drivers who joined in the last year still pay a 25% commission. An Uber spokeswoman declined to say whether the 30% commission pilot program has spread to more drivers or markets.

Source: Forbes Tech

 

0 0 Continue Reading →

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save