Skip to Content

Category Archives: Digital Business

เปลี่ยนคนเข้าเว็บขาจร ให้เป็นลูกค้าขาประจำ เพิ่ม Conversion Rate ด้วย Magento

Conversion Rate  เป็นสิ่งที่วัดประสิทธิภาพรายได้ของ Website E-commerce ที่สำคัญตัวหนึ่ง โดยคำนวนจาก จำนวนผู้ซื้อสินค้า/จำนวนผู้เข้าชม Website ยิ่งสูงมาก ยิ่งมีโอกาสที่เงินจะเข้าเยอะ

ใน Magento Version 2.1 มี Feature ที่สามารถเพิ่ม Conversion Rate ได้แก่

 

1. Elastic search (Enterprise Edition)

Admin สามารถกำหนด Priority การ Search ด้วยการ set น้ำหนักให้แก่ Attribute ต่าง เช่น  หากต้องการให้คำที่ลูกค้า Search ไป Match กับ ชื่อสินค้าก่อนสี, ขนาด, ไซส์สินค้า เราก็ใส่ น้ำหนัก “ชื่อ” มากกว่า สี ขนาด หรือ ไซส์

การใช้ Stop words โดยเพิ่ม stop word เข้าไปใน stopwords.csv เท่านี้ก็ทำให้ performance ของการ Search เพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ออกมาได้ทันใจ ลูกค้า และ Search synonyms การค้นหาคำต่างๆ ของลูกค้า บางครั้งอาจจะไม่มีผลลัพธ์สำหรับคำนั้นเป๊ะๆ ดังนั้นการเพิ่มคำเหมือน (synonyms ) จะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาสินค้าใน Website เราให้เจอได้ง่ายขึ้น

2. PayPal in-context checkout 

ขั้นตอนการชำระเงินที่ยืดยาว อาจทำให้ลูกค้าเบื่อในการกรอกข้อมูล Magento 2 สามารถลดขั้นตอนการ Check out เพื่อให้ชำระเงินโดยต่อกับระบบ PayPal ได้ทุกหน้าที่ต้องการ และเป็นการโชว์ pop up แทนที่จะ redirect ไปที่หน้า PayPal

3. Varnish caching

เพิ่มประสิทธิภาพในการ Loading Page ให้เร็วขึ้นถึง 6-25 เท่า

 

4. Visual Merchandizer

มี Feature ที่เพิ่มขึ้นจาก Magento Enterprise 1.4  โดยสามารถแสดงสินค้าตามที่เงื่อนไขที่เรากำหนด เช่น ประเภทสินค้า (Smart Category Rules)  และการ drag and drop สินค้าที่จะแสดงในหน้า page ต่างๆ

 

5. Customer Segmentation

ลูกค้าคนไหน เป็นลูกค้าชั้นดี ที่มาซื้อกับเราเป็นประจำ นอกจากจะให้ Promotion เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษยิ่งขึ้นแล้ว ก็ควรจะจัด Segment ของลูกค้าแต่ละคน การทำ Segment นั้น อาจจะตั้งกลุ่มลูกค้าเป็น Platinum, Premium, VIP, Gold, Sliver ซี่งแต่ละกลุ่ม แต่ละ Segment ลูกค้าจะเห็น ราคาสินค้าพิเศษที่แตกต่างกันไป หรือเห็นสินค้าเฉพาะกลุ่มของลูกค้า (Private Sale)

 

นอกเหนือจาก Feature ของ Magento 2 ที่สามารถเพิ่ม Conversion Rate ให้กับ website ของเราแล้ว ยังมีเครื่องมือ CRO Toolbox ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการออกแบบ website ขึ้นได้อีก มาดูตัวอย่างกันครับ

 

1. Google Analytics

เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและฟรี นิยมนำมาวิเคราะห์ดูสถิติของผู้เข้าชม Website รวมถึงพฤติกรรมของผู้เข้าชม โดยแสดงจำนวน Visitor , Traffic , Content เป็นต้น

2. Inspectlet

เครื่องมือนี้สามารถเก็บวิดีโอหน้าจอที่ลูกค้าเข้ามาบน website เพื่อดูพฤติกรรมของลูกค้าอย่างละเอียด ว่าคลิกตรงไหน กรอกข้อมูลตรงไหนก่อนหลัง  แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ ดูว่าลูกค้าของเรามีปัญหาในหน้า page ไหน

3. MageMail

สามารถให้ลูกค้านำข้อมูลตระกร้าสินค้าที่ลูกค้าทิ้งไป หรือยังไม่ได้ชำระเงิน แค่ 1 คลิกผ่านอีเมลแจ้งเตือน และแนะนำสินค้าต่างๆ โดยวิเคราะห์จากสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อ หรือเคยเพิ่มเข้าในตระกร้าสินค้าแบบอัตโนมัติ ซึ่งลดภาระทาง Admin ลงได้ และมี Feature แจ้งเตือนอื่นๆ อีกมากมาย

4. Google PageSpeed Insights

เมื่อเราสร้าง Website เสร็จ จะรู้ได้อย่างไรว่า web ของเรานั้นมีความสามารถในการดึงข้อมูลต่างๆ มาแสดงผลลัพธ์ในหน้า page นั้นได้อย่างรวดเร็ว

Google PageSpeed Insights สามารถช่วยได้ โดยวิเคราะห์ข้อมูลการโหลด page และแนะนำการ tuning page speed อย่างละเอียด

5. AddShopper

หากต้องการรู้ว่า ช่องทางใดของ Social Media ที่สามารถเพิ่ม Conversion ให้เราได้เยอะที่สุด เครื่องมือนี้ตอบโจทย์อย่างแน่นนอน

6. Google Content Experiment

หากเราต้องการที่จะ test ว่า Design page ไหนดีกว่ากัน แบบ A หรือ แบบ B สามารถใช้เครื่องมือนี้ได้เลยแบบฟรี แต่อาจจะต้องเรียนรู้วิธีการตั้งค่านิดหน่อย

 

credit:https://magento.com/blog/best-practices/magento-conversion-rate-optimization-strategies

หากสนใจที่จะเพิ่มยอดขายให้กับ E-Commerce  สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย

แปลและเรียบเรียงโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

 

0 0 Continue Reading →

ทำ A/B Testing ด้วย Google Content Experiments

เวลาเราสร้าง page ของ website ขึ้นมา มีหลากหลาย design หรือ หลากหลาย content เราจะวัดผลได้ยังไงว่าแบบ ไหนดีกว่ากัน จะใช้ตัววัดอะไรดี Pageviews ?  Bounces Rate ? Session Duration ? ในบทความนี้เราจะลองลงมือทำ A/B Testing  แบบง่ายๆ ด้วย

Google Content Experiments ซึ่ง ฟรี  ไม่เสียเงิน มาเริ่มกันเลยครับ

ก่อนที่จะทำ A/B Testing นั้น ต้องทำสิ่งเหล่านี้ก่อน

1.สมัคร Google Analytics  ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

2.นำ code Google Analytics ไปวางบน page website

มาเริ่มกันเลย

  1. Sing in เข้าไปที่ Google Analytics > https://analytics.google.com/analytics/web/
  2. จากนั้นไป search คำว่า “Experiments” ทางด้านบนซ้าย

3.กดปุ่ม Create Experiment เพื่อเริ่มทำ A/B Testing กัน

4.ในตัวอย่างนี้ผมจะ Test จำนวนผู้เข้าชมระหว่าง blog A กับ blog B ซึ่งมี Design ต่างกันและเนื้อหาต่างกัน

ใน step 1 ให้ใส่เรียงตามนี้

  • ชื่อของวัตถุประสงค์ที่เราจะ test
  • วัตถุประสงค์ของการเทส ครั้งนี้ ซึ่งจะมีค่าเริ่มต้นให้ 3 ค่า
    • Pageviews – จำนวนผู้ที่เยี่ยมชม
    • Bounces เป็นอัตราของผู้เยี่ยมชมที่เข้ามายังหน้าเว็บของเราโดยที่ไม่ได้คลิ๊กต่อไปที่ไหนเลย
    • Session Duration – เวลาที่ผู้เยี่ยมชม อยู่ในหน้า page นั้นๆ
  • กำหนดค่า traffic ไปที่ 100%

จากนั้นกดปุ่ม save

Step 2

ให้ใส่ URL หน้า page ที่เราต้องการเทส โดยที่หน้าหลัก จะเป็น Original Page ส่วนหน้าที่เป็นตัวแปร ให้ใส่ที่ Variant1 และหากต้องการเปรียบเทียบหน้าอื่นๆ กับ Original Page ก็สามารถเพิ่มได้

Step 3

กดปุ่ม Manually insert the code และนำ copy code ไปวางไว้ที่ข้างล่าง tag header บน html page ที่เป็น original page

เอาไปวางไว้ตรงข้างล่าง html

Step 4

ถ้านำ code ไปติดเรียบร้อยแล้ว จะผ่านดังรูป แต่หากยังมี error แสดงว่า ติด code ผิด หรือยังไม่มี code Google Analytics ติดไว้

กดปุ่ม Save เป็นอันจบพิธีการ set A/B test  แบบง่ายๆ

 

อันนี้เป็นตัวอย่างผลการ test ที่ run มาได้ประมาณ เกือบ 2 เดือนครับ


A/B Testing คืออะไร ดูได้จากบทความนี้เลยครับ

 

ยังไงก็ลองดูกันนะครับ  สุดท้าย Google Experiment สามารถทำท่ายากได้อีกหลายท่า แต่อาจจะต้องมีความรู้ทางด้าน coding เพื่อเพิ่มความซับซ้อนของการเทส

เขียนโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

 

 

0 0 Continue Reading →

ทำความรู้จัก A/B Testing

A/B Testing คืออะไร

A/B Testing เป็นวิธีการเปรียบเทียบการออกแบบของ Web page ที่ออกแบบมาแตกต่างกัน เพื่อดูว่าแบบไหนมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน โดยที่พิจารณาจาก conversion rate ซึ่งเว็บไซต์แต่ละประเภทจะมี conversion rate ที่แตกต่างกัน เช่น

1.E-Commerce Website อาจจะวัดจาก ผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ซื้อสินค้ากับผู้เข้าชมเว็บไซต์เฉยๆ

2.Saas web app อาจจะวัดจากผู้เข้าใช้ application ที่ลงทะเบียนใช้ trail version และเปลี่ยนมาเป็นจ่ายเงิน (paid version)

3.ข่าวหรือ media เว็บไซต์ อาจจะวัดจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่คลิกโฆษณหรือกด subscriptions  กับผู้เข้าชมเว็บไซต์เฉยๆ

 

ทุกธุรกิจบนเว็บไซต์ต้องการที่จะเปลี่ยนจาก ผู้เข้าชมเว็บไซต์มาเป็นผู้ซื้อสินค้าหรือการกระทำแบบอื่นๆ ที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องการ เรียกว่า Conversion rate ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัววัดประสิทธิภาพของตัวแปร A, B ว่าแบบไหนที่เราออกแบบแล้วมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน

แล้วเราจะ test ส่วนไหนของ website ได้บ้าง

ทุกองค์ประกอบของเว็บไซต์สามารถทำ A/B Test ได้ ได้แก่
1.Headlines
2.Sub headlines
3.Paragraph
4.Testimonials
5.Text Link
6.Action Button
7.Links
8.Images
9.Content
10.Social proof
11.Media mentions
12.Awards และ badges

ขั้นตอนการทำ A/B Testing
1.ศึกษาข้อมูลเว็บไซต์ โดยใช้ Google Analytics เพื่อหาปัญหา เช่น หน้า page ที่มี bounce rate สูงๆ คนที่เข้ามาเว็บไซต์หน้าไหนแล้ว ออกจากเว็บไปโดยไม่ดูหน้าอื่นต่อ เช่น ถ้าคนเข้ามาดูหน้า home page แล้ว ไม่มีคลิกไปที่อื่นต่อ หรือไม่คลิกที่รูปภาพไหนเลย แสดงว่า ควรจะทำ A/B test ที่หน้า home page ก่อน เพราะ bounce rate สูง

2.ตั้งสมมติฐาน ควรจะตั้งสมมติฐานที่ทำให้เพื่ม conversion rate เช่น รูปโปรโมชั่น ควรทำให้มีเนื้อหาดึงดูใจผู้ที่เข้ามาชม หรือ ปุ่มซื้อสินค้าเล็กเกินไป ไม่เด่นทำให้ผู้เข้าชมเว็บไม่เป็นที่สังเกตุ

3.ทดสอบสมมติฐาน โดยการสร้างตัวแปรที่สอดคล้องกับสมมติฐานจากข้อ 2 โดยเทียบกับ web page ปัจจุบัน เช่น ตัวแปร A เป็น web page ปัจจุบันที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และตัวแปร B เป็น web page ที่มีรูปโปรโมชั่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีเนื้อหาดึงดูดให้เข้ามาคลิก

4.ดูผลลัพธ์จากการสร้างตัวแปร AB test วิเคราะห์ผลลัพธ์จากข้อ 3 ว่าตัวแปร B ที่เราสร้างรูปโปรโมชั่นใหม่ มีผู้เข้าชมเข้ามากดคลิก เพิ่มขึ้นขนาดไหน ถ้ามีคนคลิกเยอะแสดงว่า ควรที่จะปรับปรุงรูปโปรโมชั่นบนหน้า homepage เพื่อลด bounce rate และ เพิ่ม conversion rate ให้มากกขึ้น แต่ถ้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงว่ารูปโปรโมชั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรปรับปรุง ควรจะกลับไปข้อ 2 เพื่อตั้งสมมติฐานใหม่และลองใหม่เพื่อหาสาเหตุปัญหาบน web page


 

บทความต่อไป เป็นการใช้ Google Experiment ทำ A/B Testing แบบ ฟรีๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

หากสนใจที่จะเพิ่มยอดขายให้กับ E-Commerce  สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย

เขียนโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

 

0 0 Continue Reading →

10 อันดับ ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ

10 อันดับยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ

สินค้าที่ขายบนเว็บไซต์เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ร้านค้าออนไลน์เป็นเจ้าของเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดค้าปลีกออนไลน์ทั่วโลก

ข่าวดี สำหรับร้านค้าปลีกออนไลน์ทั่วโลกและบริษัทเทคโนโลยีที่สนับสนุนตลาดอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการใช้จ่ายในการค้าปลีกออนไลน์มากถึง 1.74 ล้านล้านดอลลาร์ มีการเจริญเติบโตประมาณ 20% ทั่วโลกในปี 2015 ที่ผ่านมา

ข่าวร้าย สำหรับอีคอมเมิร์ซที่ต้องการสร้างร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก ยังมีตลาดเล็กๆของเจ้าของขนาดใหญ่ ที่มีการซื้อขายออนไลน์ในร้านค้าปลีกมากมายและยังคงเติบโต เมื่อมองไปที่ค่าสินค้ารวม (GMV) ซึ่งเป็นมูลค่ารวมของผลิตภัณฑ์ที่ขายในเว็บไซต์ทั่วโลก

10 อันดับแรกของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในปี 2015 คือ อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และ Amazon.com Inc. ที่มีการครอบคลุมเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก

t1

อาลีบาบาถือส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 26.6% ทั่วโลกโดยการวิเคราะห์จากร้านค้าทางอินเทอร์เน็ต Amazon 13% ทั้งสองบริษัทครอบครองตลาดในประเทศบ้านเกิด (แต่น้อยในต่างประเทศ) มีการใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจในการโจมตีหลายแบบ จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกบริษัทใหญ่ ที่มีราคาสินค้าต่ำและการจัดส่งรวดเร็วกว่า ดึงดูดกว่าร้านค้าอื่นๆ ในตลาด โดยการให้เข้าถึงการบรรจุผลิตภัณฑ์ จึงมีความสะดวกในการทำคำสั่งซื้อสินค้าแก่ผู้บริโภคทั่วโลก

เกือบหนึ่งในสามของการทำธุรกรรมการค้าปลีกออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ Amazon ปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับประมาณ 20% ในปี 2012 ในทำนองเดียวกัน JD.com เติบโต มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศจีนเป็น 11.3% ในปีก่อนจาก 5.1% ในปี 2012

t2

ขณะที่หุ้นของอาลีบาบา ยอดขายอีคอมเมิร์ซของจีนอยู่ที่ 78.5% ในปี 2015 จาก 81.1% ในปี 2014 นั่นคือแม้จะมีการเติบโตของยอดขายที่น่าประทับใจ ในแต่ละช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่อาลีบาบายังคงโดดเด่นในประเทศจีน คู่แข่ง JD.com มีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกาส่วนแบ่งการตลาดคอมเมิร์ซของอีเบย์อิงค์ ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ที่มา: https://www.internetretailer.com

จากข้อมูลทั้งหมด ทาง Stream IT Consulting มี Solution ที่ตอบโจทย์ E-Commerce แบบ Omni channel ได้อย่างครบถ้วน อย่างแน่นอน

banner

สนใจที่จะใช้บริการ สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย

แปลและเรียบเรียงโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

 

0 0 Continue Reading →

การซื้ออาหารออนไลน์ผ่าน E – commerce

ปัจจุบัน การซื้ออาหารออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ E-Commerce  เป็นที่นิยมกันแพร่หลายมากขึ้น      ด้วยตัวเลือกที่เพิ่มขึ้น จากการสำรวจการซื้ออาหาร หนึ่งในสามของผู้บริโภคสหรัฐที่ซื้ออาหารผ่านออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเว็ปไซต์ mobile  หรือผ่าน device ต่างๆ ใน 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ให้บริการอาหารออนไลน์มีเพิ่มขึ้น เช่น goldbely, iGourmet, Dean & Deluca, D’Artagnan, MOUTH, Walmart และมีตัวเลือกอาหารมากขึ้น เกิดการแข่งขันที่สูง จึงเป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่กำลังมองหาอาหารบนเว็บ

จากการสำรวจในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2016 พบว่า 31% ของผู้บริโภคสหรัฐซื้ออาหารออนไลน์ในช่วงครึ่งแรกของปีเกือบ 2,000 คน ที่ซื้อผ่านทางโทรศัพท์

จากข้อมูลตอบแบบสอบถามพบว่า ผู้ซื้ออาหารออนไลน์มีแนวโน้มที่จะเป็น Millennials หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Gen Y  พบว่า 36% ของอายุ 18-34 ปี บอกว่าพวกเขาได้ซื้ออาหารออนไลน์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ

  1. ผู้ซื้ออาหารออนไลน์ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นบัณฑิตวิทยาลัย (35%)
  2. ผู้ปกครอง (37%)
  3. ผู้อาศัยอยู่ในเขตเมือง (38%)

 

online1

รูปที่ 1 ประเภทของผู้ซื้ออาหารออนไลน์

ขนมขบเคี้ยวเป็นอาหารที่ซื้อกันมากที่สุดในการซื้อออนไลน์

20% ของผู้บริโภคสหรัฐกล่าวว่า พวกเขาต้องการซื้อของออนไลน์ เช่น เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (17%), สินค้าบรรจุแห้ง (16%), ผลไม้และผักสด (16% ) เนื้อสัตว์และอาหารทะเล (15%), ผลิตภัณฑ์นม (15%), เครื่องปรุงรส / น้ำ (14%), ผลิตภัณฑ์ขนมหวาน (14%), สินค้าบรรจุกระป๋อง (14%), อาหารแช่แข็ง (12%) และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ (12 %)

online2

รูปที่ 2 20% ของผู้บริโภคในสหรัฐ

  52% ของผู้ที่ซื้ออาหารออนไลน์กล่าวว่า พวกเขาซื้ออาหารออนไลน์เพื่อหาอาหารที่พวกเขาไม่สามารถหาได้ในระหว่างการเดินทาง

24% ของร้านขายของชำกล่าวว่า ผู้บริโภคได้ลดเวลาและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ส่งผลให้การช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้น 5%

ตามที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกของผู้บริโภคสหรัฐในร้านอาหารและเครื่องดื่มในปีที่ผ่านมา มีเม็ดเงินประมาณ 690.4 พันล้านเหรียญ ซึ่งมีการซื้อผ่านทางออนไลน์ประมาณ 2.3% และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นกว่า 6% ในปีนี้

E-Commerce ร้านอาหารหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ทำให้ผู้บริโภคได้รับบริการและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีสินค้าให้เลือกมากมาย จึงตอบโจทย์แก่ผู้บริโภคและผลักดันให้มีการเจริญเติบโตของตลาดมากขึ้น

ที่มา:https://www.internetretailer.com/2016/07/01/cooking-online-food-sales-consumers-buy-more-web

จากข้อมูลทั้งหมด ทาง Stream IT Consulting มี Solution ที่ตอบโจทย์ E-Commerce ทุกภาคธุรกิจ ได้อย่างครบถ้วน อย่างแน่นอน

banner

แปลและเรียบเรียงโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

0 0 Continue Reading →

Firebase Google – App success made simple

img-1

ปัจจุบันในการสร้างแอพพลิเคชั่น จะต้องเขียนทั้ง 2 Platform นั้นก็คือทั้ง Android และ iOS แอพพลิเคชั่นจะต้องมีการทำงานของ Backend ด้วย เพราะฉะนั้นในการทำโปรเจคแต่ละครั้งจะต้องมีทีมในการทำงานส่วนต่างๆ เช่น System Admin, Backend Developer แล้วต้องมีคนจัดการ server ถ้าหากมีการ access เข้ามาเยอะ ก็จะทำงานหนักขึ้น Google จึงมีตัวช่วยเข้ามาจัดการในส่วนนี้ก็คือ Firebase ซึ่ง Firebase จะเข้ามาจัดการให้ และสามารถทำได้ในทุกแอพพลิเคชั่น

img-2

Firebase

เป็นระบบ Hosting ที่มีระบบ backend แบบครบวงจร สามารถใช้งานได้ง่ายและใช้ได้ฟรี พัฒนาโดย Google ที่เพิ่มเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้พัฒนาแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และสามารถปรับปรุงคุณภาพของแอพพลิเคชั่นให้มีคุณภาพและดึงดูดผู้ใช้งาน Firebase เน้นการทำ API ของเว็บแอพพลิเคชั่น และแอพพลิเคชั่นแบบ Realtime โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

การใช้งานร่วมกันของ Firebase

การเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งานบนแอพพลิเคชั่นแบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถนำไปเชื่อมต่อกับ Feature อื่นๆใน Firebase ได้ อย่างเช่นไปเชื่อมต่อกับ Crash Reporting, Remote Config และ Notifications คือ การเก็บข้อมูลอัตโนมัติจาก Firebase Notifications แล้วนำมาสรุปผลที่เกิดขึ้นจาก notification ที่ส่งไป เช่นว่าผู้ใช้งานเลือกกดปุ่มไหน หรือเลือกใช้เส้นทางไหนมากกว่ากัน เป็นต้น

img-3

สามารถใช้งานได้ทุก Platform

Firebase รองรับการทำงานได้ทุก Platform เช่น
Angular
JavaScript
Node.js
iOS/OSX
Java/Android
REST
ซึ่งไม่ว่าจะเป็น iOS Developer, Android Developer หรือ Web Developer สามารถใช้ข้อมูลเดียวกันได้

img-4

Feature เด่นๆของ Firebase

Firebase Analytics

บริการที่เก็บข้อมุลสถิติการใช้งานของแอพลิเคชั่น ทำให้สามารถเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้มากขึ้น

Firebase Realtime Database

การจัดเก็บและการเชื่อมต่อกับข้อมูลในรูปแบบ Realtime กับทุก Devices ไว้บน Cloud รองรับการทำงานเมื่อ offline ซึ่งข้อมูลจะถูกเก็บไว้ใน Local จนกระทั่งกลับมา Online ก็จะทำการ sync ข้อมูลให้อัตโนมัติ

Firebase Authentication

เป็นบริการที่จัดการเรื่อง Backend ทั้งหมดอย่างเช่นเรื่อง Register, Sign in, Reset Password และรองรับการ Sign in จาก Social Network

Firebase Cloud Messaging

เป็นคอนโซลเพื่อยิงข้อความไปยังผู้ใช้ สำหรับโปรโมทหรือกระตุ้นให้ผู้ใช้กลับมาเปิดแอพของเรา เช่น เตือนข้อความเข้าใน Facebook หรือเกมส์ต่างๆ บริการข้อความแจ้งเตือนได้ถึง 1.7 ล้านข้อความต่อวัน

Firebase Storage

บริการพื้นที่เก็บข้อมูลที่สามารถจะ Upload หรือ Download ไฟล์จากแอพพลิเคชั่นของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Firebase Hosting

บริการ Web Hosting ที่สามารถใช้งานได้ฟรี แต่ไฟล์ที่จะนำไปวางบน Firebase Hosting จะต้องเป็น Static file เช่น HTML, JavaScript, หรือ CSS

Firebase Crash Reporting

ระบบรายงานการเกิด Crash ของแอพพลิเคชั่น

Firebase Remote Config

ตัวช่วยอัพเดต Config ของแอพพลิเคชั่น สำหรับปรับแต่งค่าต่างๆ ในแอพพลิเคชั่นจากที่อื่นได้

นอกจากนี้บริการเกือบทุกตัวของ Firebase ใช้งานได้ฟรีแบบไม่จำกัดปริมาณ ยกเว้นบริการ 4 ตัวคือ Test Lab, Storage, Realtime Database, Hosting ที่มีค่าใช้จ่าย แต่ก็มีแพ็กเกจฟรีที่มีโควต้าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป โดยสามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ที่ console.firebase.google.com

ทางบริษัท Stream I.T. Consultiing ได้รับการรับรองการเป็น Google Partner พร้อมให้คำปรึกษาการให้บริการของทาง Google

โดยสามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th

 

 

3 Continue Reading →

Gadget เพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ: Pizza Beats, Portable Power, Pokémon Go Drones

Pizza Beats

xl-2016-dj-pizza-box-1

ขอบคุณภาพจาก technewsworld.com

Pizza Hut ในประเทศอังกฤษ ได้จับมือกับบริษัท Novalia  เสริมลูกเล่นให้กับกล่องพิซซ่าที่สุดแสนธรรมดา ที่ปกติซื้อมาแล้วนำกล่องไปทิ้งอย่างเดียว แปลงมาเป็น Turntable สำหรับ DJ สุด chic มีทั้งการควบคุมเสียง , pitch, mixer และ touch sensitive decks  ด้วยสิ่งที่มีให้ ผู้ใช้สามารถ Crossfade, rewind และ scratch แผ่น เพิ่อสร้างสรรค์เสียงเพลงได้ตามต้องการ

กล่องกระดาษนี้ต้องการ DJ software ที่ลงกับ computer หรือ smartphone ต่างๆ และเชื่อมต่อกับ การทำงานผ่าน Bluetooth

 

Portable Power

hppowerup

ขอบคุณภาพจาก winsupersite.com

หุ้นตกดันขายไม่ทัน  โทรศัพท์สายสำคัญเข้าดันแบตหมด  ลืมเอาสายชาตร์ note book มาจากบ้าน หลายคนคงเคยประสบแบบนี้ คงรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย แต่วันนี้ปัญหาจะหมดได้ ลองคิดดูว่าถ้าเราสามารถมีกระเป๋าสะพายที่สามารถชารต์แบตอุปกรณ์ต่างๆที่เรามีทั้งหมด ได้พร้อมกันจะสะดวกสบายแค่ไหน

HP ได้ผลิต กระเป๋าสะพายที่ให้คุณสามารถชารต์อุปกรณ์ต่างๆได้ ในขณะที่คุณเดินทาง ในกระเป๋าได้ติดแบตเตอรี่ที่สามารถชารต์มือถือ ได้ถึง 10 ครั้ง tablet ได้ 3 ครั้ง และ notebook ได้ 1 ครั้ง

เรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องกังวล เพราะผ่านมาตราฐานของกรม Transportation Security Administration(tsa) ทางสหรัฐอเมริกา กระเป๋าใบนี้มีการตรวจสอบและควบคุมอุณหภูมิ มีการระบายความร้อน และ ซึ่งจะทำให้หลังคุณไม่ร้อนจนเกินไป

 

Pokémon Go Drones

อยากจะไปตียิม แต่อยู่ไกล โปเกมอนที่หายาก ดันไปอยู่ที่เราไปไม่ถึง อยาก อยาก อยาก แต่ดันไปไม่ได้ ทำไงดี

บริษัท TRNDlabs หัวใสออก หาวิธีการที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยใช้ Drones !!!

maxresdefault

ขอบคุณภาพจาก trndlabs.com

Drone พวกนี้จะต่อกับมือถือของผู้ใช้ ผ่านสัญญาณ wifi และผู้ใช้ต้อง Download Application Pokedron’s ซึ่ง App ตัวนี้จะใช้เชื่อมสัญญาณ GPS และ กล้องมือถือผ่าน Drone  ส่วนการบังคับ Drone สุดแสนจะง่ายดาย เพราะว่าการขึ้นบิน และลงจอดเป็นแบบอัตโนมัติผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมี Skill ในการบังคับ แต่อย่างไรก็ตามผู้ผลิตได้เตือนว่า ให้ใช้ Drone ห่างจากสุนัขหรือแมว ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นเศษพลาสติกไปได้

สนใจที่จะใช้บริการ E-Commerce สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย

banner

0 0 Continue Reading →

ยอดขายรองเท้าของ Nike.com เพิ่มขึ้น 51% ผ่าน E-commerce

ผู้ผลิตรองเท้าชื่อดัง ไนกี้ แสดงยอดขายจากการขายผ่าน E-Commerce ใน 40 ตลาดทั่วโลก และกล่าวว่าได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นผ่านช่องทาง เว็บไซต์ และ App มือถือ ซี่งยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% สำหรับเครื่องแต่งกายกีฬาและผลิตรองเท้าไนกี้อิงค์ (Nike Inc.)

ในปี 2015 ที่ผ่านมาไนกี้ประกาศว่าสามารถทำยอดขายได้ประมาณ  1.51 $ พันล้าน ซึ่ง 4.7% เป็นยอดขายที่ได้ผ่านทางเว็บไซต์ เพิ่มขึ้น 3.3% ในปีก่อน

nike1

จากกราฟจะเห็นได้ว่า รายได้จากการขายบน E-Commerce ตั้งแต่ปี 2012 ประมาณ 409 $ ล้านเหรียญ และเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในปี 2016

ทางไนกี้คาดว่ายอดขาย E-Commerce จะเติบโตถึง 7 $ พันล้านเหรียญ ในปี 2020 และได้มีความคิดริเริ่มที่จะมีแอปพลิเคชั่นบนมือถือ App และปรับปรุงแอปพลิเคชั่น รวมไปถึงมีการแชร์ข้อมูลต่างๆ ผ่าน device ทำให้ลูกค้าสามารถใช้ device ต่างๆ โดยดูข้อมูลได้อันเดียวกัน อีกทั้งไนกี้มีโปรแกรมสะสมแต้มเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำด้วย

ผู้บริหารไนกี้กล่าวว่า กลยุทธ์ต่อไปที่ใช้ คือ Omni channel  โดยที่จะเชื่อมต่อข้อมูลสินค้าแต่ละร้านค้าเข้ากับระบบ E-Commerce ซึ่งกลยุทธ์นี้มีเป้าหมายที่ยอดขาย  20 $ ล้านเหรียญในปี 2020 ซึ่งหากต้องการให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ไนกี้ต้องมียอดขายโต 46.7% ต่อปี ในอีกช่วง 4 ปีถัดจากนี้

สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2016 ไนกี้รายงานว่า 

  • ยอดขายรวม 38 $ พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากปี 2015 ประมาณ 5.8% 30.60 $ พันล้านดอลลาร์
  • รายได้สุทธิ 76 $ พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 15.0% จาก 3.27 $ พันล้านเหรียญ

สำหรับไตรมาสสี่ของไนกี้รายงานว่า

  • ยอดขายรวม $ 8.24 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 3% จาก 7.78 $ พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2015

รายได้สุทธิรวม $ 846 ล้านเหรียญ ลดลง 2.2% จาก 865 $ ล้านเหรียญ
กลยุทธ์ของทางไนกี้ที่จะใช้ต่อไป คือ Omni channel  ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจต่างๆนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขายสินค้าบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ

ที่มา: https://www.internetretailer.com/2016/06/29/nikecom-sales-shoot-51-fiscal-2016

จากข้อมูลทั้งหมด ทาง Stream IT Consulting มี Solution ที่ตอบโจทย์ E-Commerce แบบ Omni channel ได้อย่างครบถ้วน อย่างแน่นอน

banner

สนใจที่จะใช้บริการ สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย

แปลและเรียบเรียงโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

0 0 Continue Reading →

มูลค่ายอดขาย E-Commerce ในประเทศไทย – ภาคธุรกิจสินค้าเฉพาะทาง(ของเล่น ของสะสมและเครื่องใช้สำหรับเด็กทารก,อุปกรณ์กีฬาและของจัดสวน,งานอดิเรก งานฝีมือและเครื่องประดับ)

ในบทความนี้เราจะเจาะมูลค่ายอดขายของภาคธุรกิจเฉพาะทางจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

1.ของเล่น ของสะสมและเครื่องใช้ อาหาร เสื้อผ้าสำหรับเด็กทารก

2.อุปกรณ์กีฬาและของจัดสวน สินค้าในประเภทนี้ได้แก่ อุปกรณ์กีฬาทุกชนิด ต้นไม้ ดอกไม้ อุปกรณ์จัดสวน และสินค้า DIY ทั้งหลาย

3.งานอดิเรก งานฝีมือและเครื่องประดับ สินค้าในประเภทนี้ได้แก่ งานศิลป์ ของสะสมต่างๆ แสตมป์ ของโบราณ ธนบัตร นาฬิกา อัญมณี แหวน สร้อย เป็นต้น

เรามาดูว่ายอดขายประมาณการณ์ของภาคธุรกิจนี้ตั้งแต่ปี 2014-2020 เป็นอย่างไร

si1

*ข้อมูลมูลค่ายอดขายนี้เป็นตัวเลขประมาณการณ์โดยสำรวจจากการซื้อขายสินค้าที่จับต้องได้(physical goods)และมีลักษณะ B2C ที่มีการซื้อขายผ่าน คอมพิวเตอร์ และ Mobile Devices

จากรูปด้านบน ภาพรวมมูลค่ายอดขายสินค้าผ่าน E-Commerce ในประเทศไทยของภาคธุรกิจนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2014 มีมูลค่าสูงถึง 276 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยถึง 9,660 ล้านบาท และในปี 2015 ที่ผ่านมา 13,370 ล้านบาท มูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 38.4%  ในปี 2016 คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 80.43% จากปี 2014 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2020 ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1,041 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยถึง 36,435 ล้านบาท ถือว่าเป็นภาคธุรกิจที่น่าลงทุนทีเดียว โดยเฉพาะสินค้าในส่วนงานอดิเรก งานฝีมือและเครื่องประดับซึ่งมียอดขายสูงสุด ถ้าเทียบกับสินค้าประเภทอื่นในภาคธุรกิจเดียวกัน

อัตราการเติบโตยอดขายภาคธุรกิจสินค้าเฉพาะทาง (คิดเป็น%)

si2

จากกราฟจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2015 – 2020 สินค้าจำพวกของเล่น ของสะสมและเครื่องใช้ อาหาร เสื้อผ้าสำหรับเด็กทารกมีอัตราการเติบโตของยอดขายมากที่สุดในภาคธุรกิจนี้เฉลี่ย 34% รองลงมาเป็นสินค้างานอดิเรก งานฝีมือและเครื่องประดับที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ย 25% ส่วนอันดับสุดท้ายเป็นของสินค้าอุปกรณ์กีฬาและของจัดสวนซึ่งมีอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ย 16%

จำนวน User ที่ซื้อสินค้าต่อปี

si3

จากกราฟจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2014 – 2020 จำนวน user ที่ซื้อสินค้าทั้ง อุปกรณ์กีฬาและของจัดสวน กับ งานอดิเรก งานฝีมือและเครื่องประดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่น่าสนใจคือ สินค้าพวก ของเล่น ของสะสมและเครื่องใช้ อาหาร เสื้อผ้าสำหรับเด็กทารก มีจำนวน User เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปี 2014 ถึง 2020 เป็นไปได้ว่าลูกค้ารุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับการใช้ internet กลายมาเป็นคุณพ่อ คุณแม่ยุคใหม่ที่นิยมจะซื้อสินค้าเครื่องใช้ อาหาร เสื้อผ้าสำหรับเด็กทารก ผ่านทางออนไลน์แทนที่จะไปซื้อถึงที่ร้าน

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อ User ในการซื้อสินค้าต่อปี (Average revenue per user)

si4

กราฟก่อนหน้าแสดงให้เห็นว่ามีจำนวน User ต่อปีที่เท่าไรที่ซื้อสินค้า คราวนี้มาดูว่าแต่ละ User มีการใช้จ่ายเท่าไรบ้าง

จากกราฟด้านบนตั้งแต่ปี 2014-2020 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อ User ที่ซื้อสินค้าของเล่น งานอดิเรก งานฝีมือและเครื่องประดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากปี 2014 จนถึงปี 2020 เพิ่มขึ้นมา 2 เท่าตัวเท่ากับสินค้าอีก 2 ประเภท

อัตราการเติบโตของภาคสินค้าเฉพาะทาง ส่งผลให้มูลค่ายอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักๆ มาจากการเข้าถึงผู้ใช้สามารถเข้าถึง Internet ในประเทศเพิ่มมากขึ้นและอุปกรณ์ IT ต่างๆ มีราคาลดลงและคนรุ่นใหม่ยุค Gen Y,Z ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและมีศักยภาพในการผลักดัน E-Commerce ในอนาคต

Picture Credit: www.statista.com/

 

_______________________________________________________________________

ไปต่อกับบทความ ยอดขาย  E-Commerce ในประเทศไทยแยกตามภาคธุรกิจ

_______________________________________________________________________

จากข้อมูลทั้งหมด ทาง Stream IT Consulting มี Solution ที่ตอบโจทย์ E-Commerce ทุกภาคธุรกิจ ได้อย่างครบถ้วน อย่างแน่นอน

banner

สนใจที่จะใช้บริการ สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของเรา marketing@stream.co.th เราเป็น Magento Partner หนึ่งเดียวในประเทศไทย

เขียนและเรียบเรียงโดย Kittiphat Dumrongprat

Business Analyst

0 0 Continue Reading →

ทำความรู้จักกับ Kony Mobility Platform

      ปัจจุบันในแวดวงธุรกิจต่างๆ เริ่มมีการนำโมบายแอพพลิเคชั่นเพื่อช่วยเสริมความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ในยุคที่ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับ “Mobility Platform” มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งอาจจะสร้างประสบการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก หรือผู้ใช้งานบางรายอาจจะไม่คล่องตัวจากการใช้งานจริง เนื่องจากเสถียรภาพของเครือข่ายการสื่อสารไร้สายในปัจจุบัน อุปกรณ์การสื่อสารหลากหลายแพลตฟอร์ม ปัญหาการตรวจสอบความปลอดภัยออนไลน์ อีกทั้งความเข้ากันได้ระหว่างแอพพลิเคชั่นจากผู้ให้บริการที่หลากหลายที่แยกตามประเภทของการให้บริการส่งผลให้ความนิยมของการใช้งานโมบายแอพพลิเคชั่นเชิงธุรกิจเหล่านี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

Kony Mobility Platform คือ Platform ที่นำฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ที่มีการพัฒนาเพื่อผนวกเข้าเป็นโซลูชั่นหลักเพียงโซลูชั่นเดียวเพื่อให้ผู้ใช้งานสำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการใช้งานแบบ Mobility สามารถเข้าถึงและใช้งานได้ง่าย

0 10 Continue Reading →

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save