Category Archives: News

ไอบีเอ็มเปิดตัวระบบแห่งความเชี่ยวชาญ IBM PureSystems สร้างปรากฏการณ์ปลดปล่อยพันธนาการบริหารจัดการไอทีให้เป็นเรื่องง่ายและ ประหยัด เพื่อก้าวเข้าสู่คอมพิวติ้งยุคใหม่

ไอบีเอ็มประกาศสร้างปรากฏการณ์ใหม่ แนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์พลิกโฉมหน้าการจัดการระบบไอทีด้วย IBM PureSystems (ไอบีเอ็มเพียวซิสเต็มส์) หรือ”ระบบแห่งความเชี่ยวชาญ” ที่จะมาปลดปล่อยพันธนาการบริหารจัดการไอทีแบบเดิม ที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ให้เป็นเรื่องง่าย และประหยัดทรัพยากรการจัดการไอทีได้อย่างมหาศาล นับเป็นก้าวย่างสำคัญ ที่เป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์การพัฒนานวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ไอบีเอ็มภูมิใจนำเสนอ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคของระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ที่ง่ายขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ IBM PureSystems เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่มีความเชี่ยวชาญในตัวซึ่งพัฒนามาจากประสบการณ์หลาย ทศวรรษของ IBM ในการดำเนินงานด้านไอทีสำหรับลูกค้านับหมื่นรายใน 170 ประเทศ เป็นการรวมความสมบูรณ์จากการออกแบบในแนวทาง สเกลอิน และความเชี่ยวชาญ ที่จัดการได้ง่ายช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถปรับรูปแบบความคุ้มค่าของไอที พร้อมด้วยการสนับสนุนของพันธมิตรทางธุรกิจและ ISVs ชั้นนำกว่า 600 บริษัททั่วโลก

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “IBM PureSystems คือผลสำเร็จจากการทุ่มงบประมาณกว่า 2 พันล้านดอลล่าร์ในการวิจัยและพัฒนา ด้วยทีมวิศวกรทั้งหมดกว่าพันคน ที่ทำงานในห้องทดลอง 17 แห่งจาก 37 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งการสร้างสรรค์มาเป็นเวลานานกว่าสี่ปี โดยได้รวบรวมองค์ประกอบด้านไอทีทั้งหมด ทั้งแบบฟิสิคัลและเสมือน กลุ่มผลิตภัณฑ์ IBM PureSystems ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นทางเลือกใหม่ สำหรับโมเดลคอมพิวเตอร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ จากเดิมที่ลูกค้าใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระบบที่แตกต่างกันหลายระบบ และต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมากในการติดตั้ง ดำเนินการและดูแลรักษา

ความท้าทายที่สำคัญซึ่งบริษัททั่วโลกประสบอยู่คือ บริษัทต้องใช้เงินมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณด้านไอทีหรือมากกว่านั้นในการดำเนินงานและการบำรุง รักษาพื้นฐาน ซึ่งส่งผลให้เหลือเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อการลงทุนด้านนวัตกรรม จากการนำเสนอแนวทาง IDC ของ IDC Analyst Matt Eastwood ในปี 2011 สองในสามของโครงการไอทีของบริษัทมีการจัดส่งโดยใช้เงินเกินกว่างบประมาณ และล่าช้ากว่ากำหนด จากการศึกษาล่าสุดโดยไอบีเอ็ม ยังพบว่ามีเพียงหนึ่งในห้าของแผนกไอทีของบริษัทที่สามารถใช้เงินส่วนใหญ่ของ งบประมาณไอทีในการพัฒนาด้านนวัตกรรม

3 คุณลักษณะเด่น ของความล้ำหน้าที่สำคัญของกลุ่มผลิตภัณฑ์ IBM PureSystems ซึ่งบ่งชี้ถึงยุคใหม่ของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนและความซับซ้อนที่เชื่อมโยงกับการ จัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ
– การออกแบบระบบ “สเกลอิน”: IBM PureSystems เป็นแนวคิดใหม่ในการออกแบบที่ไอบีเอ็ม ได้สร้างระบบที่รวมเซิร์ฟเวอร์ หน่วยเก็บข้อมูล เครือข่ายและ การจัดการ เข้าไว้ด้วยกันในเครื่องที่จัดการง่ายและเป็นระบบอัตโนมัติเกือบทั้งหมด การออกแบบสเกลอินยังช่วยเพิ่มปริมาณงานที่รองรับได้ – PureSystems สามารถจัดการกับแอ็พพลิเคชันได้มากถึงสองเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบไอบี เอ็ม บางระบบ นั่นหมายถึงเพิ่มกำลังการคำนวณต่อพื้นที่หนึ่งตารางฟุตของศูนย์ข้อมูลได้มาก ถึงสองเท่า เปรียบเทียบการใช้แอ็พพลิเคชันเสมือนระหว่างระบบ PureFlex และ BladeCenter HS22V ที่สร้างขึ้นก่อนหน้านี้
– รูปแบบของความเชี่ยวชาญ: นับเป็นครั้งแรกที่ไอบีเอ็มฝังเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรม ผ่านทางซอฟต์แวร์ประเภทแรกที่ช่วยให้ระบบสามารถจัดการกับภารกิจพื้นฐานที่ ใช้เวลานานได้โดยอัตโนมัติ เช่น คอนฟิกูเรชัน อัพเกรด และข้อกำหนดแอ็พพลิเคชัน
– การผสานรวม Cloud Ready: สิ่งที่โดดเด่นคือ สมาชิกทั้งหมดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ PureSystems ถูกสร้างขึ้นสำหรับเทคโนโลยี cloud เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างข้อเสนอ cloud ไพรเวตแบบบริการตนเองที่สามารถปรับสเกลขึ้นและลงโดยอัตโนมัติได้อย่างรวด เร็ว

นายธนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยการออกแบบสเกลอินใหม่ที่รวมเซิร์ฟเวอร์ หน่วยเก็บข้อมูล เครือข่าย และความเชี่ยวชาญในตัว PureSystems แสดงถึงความก้าวหน้าสำคัญในวิวัฒนาการระบบคอมพิวเตอร์ โดยการเชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้เกี่ยวโยงกันมากขึ้น และการเพิ่มความรู้และทักษะซอฟต์แวร์ชั้นเลิศ PureSystems มีการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้ามีเวลา และมีเงินมากขึ้นสำหรับการคิดค้นด้านนวัตกรรม ซึ่งธุรกิจจำนวนมากไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากต้นทุนและความต้องการทีมงานที่มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับศูนย์ข้อมูลแบบดั้งเดิม”

นอกจากนี้ยังมีพันธมิตร ISVs (Independent Software Vendors) ชั้นนำมากกว่า 600 บริษัททั่วโลกประกาศ การสนับสนุนกลุ่มผลิตภัณฑ์ PureSystemsใหม่ ของไอบีเอ็มที่รวมความเชี่ยวชาญซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ทำงานง่ายขึ้นอย่างแท้จริง สามารถเป็นเจ้าของและบำรุงรักษาได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และถูกลง สำหรับ IBM Business Partners ระบบ PureSystems จะสร้างโอกาสใหม่เพื่อช่วยลูกค้าแก้ไขปัญหาความซับซ้อนของไอทีเอ็น เตอร์ไพรซ์ ลดต้นทุน และสนับสนุนนวัตกรรม

สองโมเดลแรกของกลุ่มผลิตภัณฑ์ IBM PureSystems คือ – ระบบ IBM PureFlex และระบบ IBM PureApplication โดย IBM PureFlex เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ IBM PureSystems ที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์หลักคือ เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์เก็บข้อมูล อุปกรณ์เครือข่าย ซอฟต์แวร์ด้านเวอร์ชวลไลเซชั่น และซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการ ครบถ้วน ซึ่งองค์กรสามารถซื้อแล้วนำไปติดตั้งแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจขององค์กรได้ ทันที นอกจากนี้ระบบเวอร์ชวลไลเซชั่นที่มีอยู่ของของ IBM PureFlex ยังสามารถต่อเชื่อมระบบเวอร์ชวลไลเซชั่นที่มีอยู่แล้วขององค์กรได้ ขณะที่อุปกรณ์เก็บข้อมูล V7000 ของ IBM PureFlex ก็ยังต่อเชื่อมและบริหารจัดการอุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่นที่มีอยู่แล้วขององค์กร ได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ IBM PureSystems สนับสนุนตัวประมวลผล POWER และตัวประมวลผล Intel

นางเจษฎา ไกรสิงขร กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ใน IBM PureApplication System ได้เพิ่มความพิเศษสุด ตรงความสามารถของซอฟต์แวร์ใหม่ที่เรียกว่ารูปแบบของความเชี่ยวชาญ (Pattern of Expertise) รูปแบบดังกล่าวรวมความรู้และทักษะการดำเนินงานและความเชี่ยวชาญอุตสาหกรรม เข้าไว้ในระบบโดยตรง เพื่อทำให้ภารกิจด้านไอทีและอุตสาหกรรมทั่วไปหลายประเภทกลายเป็นระบบ อัตโนมัติ และสามารถลดเวลาและรีซอร์สที่จำเป็นต้องใช้สำหรับภารกิจพื้นฐานและภารกิจที่ ซับซ้อน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เคยใช้เวลา หลายสัปดาห์ในการนำไปใช้ ขณะนี้สามารถนำไปใช้ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน IBM PureApplication System ลูกค้าจะได้สัมผัสกับความง่าย (Simplify Experience) ด้วยการนำเสนอการขายด้วย part number เดียว ลูกค้าไม่ต้องยุ่งยากในการสั่งซื้ออุปกรณ์ที่หลากหลาย ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและความยุ่งยาก นอกจากนี้ IBM Pure Application ยังมีความสามารถในการอัพเดพซอฟต์แวร์ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบโดยอัตโนมัต (automation) และ ความเป็นมาตรฐาน (standardization) รองรับ PaaS Cloud ได้อย่างแท้จริง IBM Pure Application System ยังมี monitoring tool ที่ให้ผู้ใช้สามารถบริหารจัดการระบบทั้งฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์จากหน้าจอเดียว”

สำหรับ IBM PureApplication ได้รับการออกแบบและปรับแต่งการทำงานมาเฉพาะสำหรับการให้บริการเว็บแอพพลิเค ชั่น WebSphere และโซลูชั่นระบบฐานข้อมูล DB2 มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ระบบที่มีซีพียูจำนวน 96-608 คอร์ และมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดตั้งแต่ 1.5-9TB นอกจากนี้ทั้ง PureFlex และ PureApplication ยังมีรุ่นย่อยต่างๆ มากมายที่ออกแบบมาให้องค์กรเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับรูปแบบและขนาด ธุรกิจ ซึ่งระบบเหล่านี้ครอบคลุมความต้องการของธุรกิจตั้งแต่ระบบ SMB จนถึงองค์กรขนาดใหญ่

พร้อมกันนี้ไอบีเอ็มได้เปิดตัว PureSystems Centre ศูนย์รวมแอพลิเคชั่นสำหรับ IBM PureSystemsจากเหล่าคู่ค้าซอฟต์แวร์ของไอบีเอ็ม ซึ่งเป็นเอ็นเตอร์ไพรซ์แอ็พพลิเคชันทางออนไลน์และโซลูชันที่โดดเด่น ที่ออกแบบเพื่อตอบสนองธุรกิจช่วยให้ลูกค้าค้นหารูปแบบที่ต้องการได้อย่างรวด เร็ว โดยมีแอ็พพลิเคชันทั่วไปและแอ็พพลิเคชันเฉพาะอุตสาหกรรมมากกว่า 150 รายการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ IBM PureSystems ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร อุตสาหกรรมสินค้าสำหรับผู้บริโภค ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

ในการทำตลาดไอบีเอ็มได้วางตำแหน่งของ IBM PureSystems ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกสำหรับลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) และผู้พัฒนาระบบคลาวด์ในองค์กร (Private Cloud) กลุ่มที่สอง เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการนำผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็มเข้าไปทำงานร่วมกับสภาพ แวดล้อมทางไอทีที่มีความหลากหลาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น และกลุ่มที่สามคือ กลุ่มลูกค้าเดิมของไอบีเอ็มที่ต้องการต่อยอดการใช้งานทางด้านตลาวด์คอม พิวติ้งมากขึ้น นอกจากนี้ IBM PureSystems ยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับ Business Partners ของเราในการผลักดันยอดขาย นำเสนอโซลูชันที่ดีขึ้นสำหรับปัญหาที่ซับซ้อนของลูกค้า ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนา และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ไอบีเอ็มยังมุ่งมั่นที่จะแนะนำบริษัทมากขึ้นให้หันมาใช้ตระกูล PureSystems เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าได้มีทางเลือกมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้จากผู้ให้บริการแอ็พพลิเคชันเพียงรายเดียว

IBM today released a powerful new set of entry-level servers that offer small to mid-sized companies business computer performance at personal computer prices.

Tanapong Ittisakulchai Country Manager, System & Technology Group, IBM Thailand Co.,Ltd. Said “The new System x tower and rack servers are designed to give small to mid-sized business owners efficient, high-performing, low-cost server options with the reliability and 24/7 dependability necessary to run a growing business. Tailor made a small business, the servers are an idea solution for OEM and kiosk operators, and larger enterprises performing large roll outs or high-end desktop migrations.

The IBM System x3100 M4 is the newest addition to the IBM x86 tower server line. It is a quiet, compact, 1-socket system that features the latest Intel Xeon processor E3-1200 series, providing clients a performance boost of up to 30 percent over previous 1-socket machines. The server has been purpose-built to offer a small business environment server class reliability and performance at a significantly affordable starting price of around $600.

IBM also introduced a new IBM System x3250 M4, a compact 1U-rack server designed to run 1-socket business workloads such as file and print, web serving, small business infrastructure and virtual desktop for small work groups. Also powered by the latest Intel® Xeon® processor E3-1200 series, the server offers customers performance, reliability and availability of a larger system, also at an entry price under $700. Notable features include redundant power, optional HW RAID, and server-level memory with error correction, providing business owners the 24/7 dependability required to run their businesses.

Both servers are an ideal file and print solution for retail establishments and general and emerging businesses. The servers are available worldwide today through IBM Business Partners.

Recently, Dr. Apisit Anantanatarat, Senior Vice President, Information Technology Department, Bangkok Insurance Public Co., Ltd. (4th from left) signed a purchasing contract with Mr. Vichu Charuchadr, Managing Director, Stream I.T. Consulting Co., Ltd. (3rd from left) and Mr. Watcharasit Santisuknirun, Country Manager, Thailand , Hitachi Data Systems (6th from left) for the project of Backup Customer Data in Disaster Site.

The Picture also includes the executives (from left); Mr. Pinyo Kumpookaew, Director, Stream I.T. Consulting Co., Ltd., Mr. Surin Kansirisin, Director Stream I.T. Consulting Co., Ltd. and Mr. Natdanai Pornchaisiriarun, First Vice President, Information Technology Department, Bangkok Insurance Public Co., Ltd.

ไอบีเอ็มดันกลยุทธ์ขยายธุรกิจกลุ่มอาเซียน ลุยเปิดสำนักงาน13 แห่งทั่วภูมิภาค พร้อมเปิด “อาเซียน มิดมาร์เก็ต โมบาย คีออส” แสดงโซลูชั่นครอบคลุม

ไอบีเอ็มดันกลยุทธ์ขยายธุรกิจกลุ่มอาเซียน ลุยเปิดสำนักงานหัวเมืองนอกเมืองหลวง 13 แห่งทั่วภูมิภาค แสดงความมุ่งมั่นให้บริการวงกว้างทั้งในและนอกเขตเมือง ครอบคลุมรัฐ-เอกชน พร้อมเปิด “อาเซียน มิดมาร์เก็ต โมบาย คีออส” จัดแสดงโซลูชั่นครอบคลุม เน้นธุรกิจขนาดกลาง ที่เชียงใหม่เป็นแห่งแรก ก่อนหมุนเวียนไปยังประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียนภายใน 12 เดือน

นายทิม วอง รองประธานกลุ่มธุรกิจทั่วไป ไอบีเอ็มอาเซียน กล่าวที่งานสัมมนา IBM Geo Academy and Regional Business Partner Summit ที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ปีนี้ไอบีเอ็มมุ่งกลยุทธ์ขยายธุรกิจกลุ่มอาเซียน โดยเปิดสำนักงานหัวเมืองนอกเมืองหลวง 13 แห่งทั่วภูมิภาค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค ได้แก่ เมืองโกตากินะบะลู มาเลเซีย เมืองดานัง เวียดนาม และเมืองมาคาสซาร์ อินโดนีเซีย

ทั้งนี้ เนื่องจากลูกค้าหัวเมืองต่างๆ นอกเมืองหลวงเริ่มเห็นคุณค่าอันมหาศาลของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ว่าเป็นเครื่องมือเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ยกตัวอย่างคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลือกไอบีเอ็มเชื่อมต่อระบบไอที และระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดให้โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย คือโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ในการปรับปรุงการดูแลคนไข้ และการเพิ่มความเป็นเลิศทางด้านวิชาการให้แก่นักศึกษาแพทย์ภาคเหนือ

“กลยุทธ์ของเราคือการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับลูกค้าในภูมิภาคต่างๆ และช่วยให้ลูกค้าได้ใช้นวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มคุณภาพการบริการ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้ธุรกิจ รวมทั้งยังมุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับภาครัฐบาลและสถาบันการศึกษา และการขยายความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจ”

พร้อมกันนี้ ไอบีเอ็มได้เปิดตัว “ไอบีเอ็ม อาเซียน มิดมาร์เก็ต โมบาย คีออส” (IBM ASEAN Midmarket Mobile Kiosk) เป็นครั้งแรกในอาเซียน เป็นคีออสเคลื่อนที่ที่สามารถจัดแสดงโซลูชั่นครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการ โดยเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง (Mid-market) ตามหัวเมืองต่างๆ กำหนดจัดแสดงหมุนเวียนไปยังประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียนภายใน 12 เดือนจากนี้ เริ่มที่เชียงใหม่เป็นแห่งแรก

ตลอดจนมุ่งเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาหัวเมืองต่างๆ ทั่วอาเซียน หนึ่งในโครงการดังกล่าวคือ การริเริ่มโครงการ IBM Corporate Service Crops (CSC) โครงการอาสาสมัครเพื่อสันติภาพ (Peace Corps) โดย 2 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งพนักงานที่มีศักยภาพสูงกว่า 20 ทีมจากทั่วทุกมุมโลก ไปยังประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย เข้าทำโครงการที่มีวัตถุประสงค์สร้างขีดความสามารถการแข่งขันทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ทั้งปลายเดือน ก.ย.นี้ มีแผนเข้าทำโครงการในเมืองซูราบายา อินโดนีเซียด้วย

ไอบีเอ็มลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนมากว่า 70 ปี ซึ่งการลงทุนครั้งใหม่พยายามจะรุกตลาดภูมิภาคในหัวเมืองต่างๆ อย่างเต็มตัว ภายในปี 2558 จะมีมากกว่า 30 สาขา และเห็นโอกาสอีกมากที่จะพัฒนาหัวเมืองต่างๆ เนื่องจากผู้นำภาครัฐบาลและเอกชนต่างให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของไอทีในการเปลี่ยนองค์กรให้ทำงานอย่างชาญฉลาดมากขึ้น

นายกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจทั่วไป บริษัท ไอบีเอ็มประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ไอบีเอ็มขยายธุรกิจภาคเหนือ โดยเปิดสำนักงานสาขาเชียงใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แสดงความมุ่งมั่นจะนำโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเข้าช่วยเหลือธุรกิจต่างๆ ด้วยการร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรภาคเหนือกว่า 100 ราย

กลุ่มลูกค้าเน้นกลุ่มธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ การศึกษา อุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจการโรงแรม และค้าปลีก ควบคู่การสร้างและพัฒนาทักษะบุคลากรในท้องถิ่น

ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่รุกตลาดระบบการจัดเก็บข้อมูล ชูธง 4 องค์ประกอบหลักสร้างจุดต่าง-  เสมือนจริง อัตโนมัติ  ระบบคลาวด์ที่พร้อมใช้งาน และยั่งยืน

บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ หรือ เอชดีเอส ธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก: HIT)  ประกาศเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ Data drives our world – and information is the   new currency  ด้วยเชื่อว่า ข้อมูลจะขับเคลื่อนโลก และข้อมูลข่าวสาร เป็นกระแสใหม่ที่มาแรง

ข้อมูลข่าวสารกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน  ความท้าทายในโลกธุรกิจคือการ   ทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งานและมีความปลอดภัย  โซลูชั่นของฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ จะทำให้องค์กรเปลี่ยนจากข้อมูลดิบ    ไปสู่ข้อมูลที่มีมูลค่า  ด้วยการนำวิสัยทัศน์ที่ระบบไอทีต้องมีคือ เสมือนจริง (Virtualized)  อัตโนมัติ (Automated)      ระบบคลาวด์ที่พร้อมใช้งาน (Cloud-ready) และยั่งยืน (Sustainable)

นายวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์  ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าวว่า    จากวิสัยทัศน์ของเราดังกล่าว บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริการ และโซลูชั่นในระดับ   ที่ดีเยี่ยมเพื่อให้ผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ที่สูงสุด อัตราผลตอบแทนต่อสินค้าทรัพย์ (ROA) ที่ดี และส่งผลต่อการ ดำเนินธุรกิจที่พิสูจน์ได้ ในฐานะที่เป็นผู้นำในระบบจัดเก็บข้อมูลเสมือนจริง จึงมีเพียงบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์       แห่งเดียวเท่านั้นที่สามารถนำเสนอแพลตฟอร์มพื้นฐานแบบเสมือนสำหรับข้อมูลและข้อมูลข่าวสารทั้งหมด
Hitachi Unified Compute Platform
แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ครบวงจร

ในปี 2553 บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งสำคัญ คือ Hitachi Unified Compute Platform   เพื่อรองรับการเติบโตของศูนย์ข้อมูลที่มีความซับซ้อน  เนื่องจากองค์กรต่างๆได้หันมาปรับใช้เทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่น และระบบคลาวด์เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น    Hitachi Unified Compute Platform นับว่าเป็นระบบเปิดแรกที่เพิ่มความสามารถในการประสานด้านไอทีและธุรกิจ   เพิ่มความเร็วและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลและระบบคลาวด์แบบส่วนตัว ทั้งยังเป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิดที่รองรับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย สามารถรองรับการบริหารจัดการศูนย์ข้อมูลสำหรับองค์กรและระบบคลาวด์ได้อย่าง  ดีเยี่ยมครบถ้วนสมบูรณ์

นายวัชรสิทธิ์  กล่าวต่อว่า  บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการหรือเซอร์วิส โพรไวเดอร์ในการให้บริการระบบคลาวด์สาธารณะและส่วนตัวในรูปแบบของการใช้ประโยชน์  ซึ่งทำให้เสียค่าใช้จ่ายตามความต้องการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนเพิ่มเติม ทำให้สามารถเติบโตและลดค่าใช้จ่ายเมื่อมีความต้องการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ

นอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ในปีนี้ บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ยังได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย แปซิฟิก (Asia Pacific Distribution Center) ด้วยเงินลงทุนกว่า 3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ ประเทศสิงคโปร์ ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่นี้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 35,746 ตารางฟุต โดยถือเป็นศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรก นอกสหรัฐฯและยุโรป  จะทำให้การดำเนินงานคล่องตัว จัดส่งสินค้าได้เร็วขึ้น  และลดต้นทุนการขนส่ง ตลอดจนการบริหารจัดการเก็บสินค้าในคลังสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

“การเปิดศูนย์กระจายสินค้าในเอเชีย แปซิฟิก นับว่าเป็นก้าวครั้งสำคัญในการขยายการบริการให้กับลูกค้าของเราเพราะะช่วยให้การปฏิบัติการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายการขนส่ง และการจัดส่งผลิตภัณฑ์ของฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ได้ทันตามเวลาอย่างแน่นอน เพื่อให้เหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้า” นายวัชรสิทธิ์ กล่าว
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เป็นผู้จัดหาโซลูชั่น บริการ  และเทคโนโลยีสารสนเทศระดับดีเยี่ยมที่ให้ผลตอบแทน  จากการลงทุน (ROI) ที่ดีแก่ลูกค้า อัตราผลต่อแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ที่โดดเด่น และแสดงให้เห็นผลที่ธุรกิจจะได้รับอย่างชัดเจน  ด้วยวิสัยทัศน์ด้านไอทีที่เสมือนจริงหรือเวอร์ชวลไลเซชั่น อัตโนมัติ ระบบคลาวด์ที่พร้อมใช้งานและยั่งยืน  โดยบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ได้นำเสนอระบบไอทีชั้นเยี่ยมที่สามารถปรับปรุงด้านค่าใช้จ่ายไอทีและความคล่องตัว  ด้วยพนักงานกว่า 4,100 รายทั่วโลก บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ สามารถดำเนินธุรกิจได้ในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำทั่วโลก ซึ่งรวมถึงองค์กรกว่า 70% ของทำเนียบฟอร์จูน 100 และกว่า 80% ของทำเนียบฟอร์จูนโกลบอล 100 ด้วย โดยบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เชื่อว่าข้อมูลจะเป็นตัวขับเคลื่อนโลกของเราและข้อมูลข่าวสารคือกระแสใหม่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ http://www.hds.com

บริษัท ฮิตาชิ จำกัด
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก คือ HIT/ชื่อในตลาดหุ้นโตเกียว คือ 6501) มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก ด้วยจำนวนพนักงานทั่วโลกประมาณ 400,000 ราย       โดยในปีงบประมาณ 2551 (จนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2552) บริษัทฯ มียอดขายรวม 10,000 พันล้านเยน (102 พันล้านดอลลาร์) บริษัทฯ จัดหาระบบงาน ผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลายให้กับหลายภาคธุรกิจในตลาด ได้แก่ ระบบสารสนเทศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟฟ้าและอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค โลจิสติกส์ และบริการด้านการเงิน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของฮิตาชิ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.hitachi.com

2010 ฮิตาชิ เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด และ/หรือธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ ในสหรัฐและประเทศอื่นๆ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด ในสหรัฐและประเทศอื่นๆ

พาร์ตเนอร์ถือเป็นส่วนสำคัญในการเข้าไปเจาะตลาดของยักษ์ใหญ่ในธุรกิจฮารดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริการอย่างไอบีเอ็ม ดังนั้นการสนับสนุนพาร์ตเนอร์ให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และมีศักยภาพอันจะส่งผลไปถึงการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า จึงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งที่ผ่านมาไอบีเอ็มจึงจัดโปรแกรมต่างๆ มากมาย และหลากหลาย เพื่อเป็นการส่งเสริมการทำงานของพาร์ตเนอร์ให้ประสบความสำเร็จ

วางใจบริษัท โพสต์ทิเลียนหลังเลือกเป็นพันธมิตร ตั้งเป้ากวาดรายได้กลุ่มแบงก์ ตั้งเป้า 2 ปี กวาด 1พันล้าน วางแผนขยายเพิ่มค้าปลีก ขนส่ง ประกัน…

นางกนกวิภา วิริยประไพกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตรีม ไอ.ที. คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับบริษัท โพสต์ทิเลียน ผู้นำด้านโซลูชั่นซอฟต์แวร์การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ครั้งนี้ จะช่วยให้การลงทุนของสถาบันการเงินตื่นตัวมากขึ้น จากเดิมที่ใช้ระบบการชำระเงินแบบเก่า หรือเลกาซี ซิสเต็มส์สูงกว่า 80%โดยเฉพาะระบบเอทีเอ็ม พูล ที่ใช้งานมากว่า 20 ปี อีกทั้ง เป็นเรื่องยากที่จะปรับเปลี่ยนให้มาใช้บริการระบบใหม่ เพราะราคาต้นทุน

กก.ผอ.บ.สตรีม ไอ.ที. กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังนิยมใช้เงินสดใช้จ่ายอยู่ ส่งผลให้ต้นทุนการจัดการของธนาคารสูงตามไปด้วย ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับระบบจัดการอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีแนวโน้มลงทุนเพิ่นในกลุ่มตลาดค้าปลีก ระบบขนส่งคมนาคม โดยใช้บัตร และบริษัทประกัน นอกจากลูกค้ากลุ่มธนาคารด้วย โดยคาดว่าจะเติบโตถึง 1,000 ล้านบาท

“คาดว่าจะมีส่วนแบ่งประมาณ 50% จากมูลค่าตลาดการชำระเงินในไทยที่มีแนวโน้มเติบโตถึง 1,000 ล้านบาท ภายใน 2 ปี นับจากไตรมาส4 ปี2552 ขณะที่ปัจจุบันมีรายได้จากลูกค้าธนาคารอยู่ที่ 60% และกลุ่มอื่น หรือนอน-แบงก์ 40%” นางกนกวิภา กล่าว

นายฟรองซัวส์ แวน สกอร์ ประธานบริษัทโพสต์ทิเลียน กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่โดดเด่นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบกับมีความพิเศษดึงดูดให้หลายประเทศร่วมลงทุน อีกทั้ง เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐ เนื่องจาก ยังเป็นระบบเก่าอยู่จึงเป็นโอกาสทำตลาดสำหรับบริษัท อีกทั้ง ตั้งเป้าผลักดันให้ไทยเป็น เวิลด์คลาส เคส ด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 สิงหาคม 2552

สตรีม ไอ.ที. ประกาศตัวเป็นพันธมิตร”โพสต์ทิเลียน” ดันรายได้กลุ่มแบงก์ พร้อมขยายตัวสู่ตลาดค้าปลีก-ประกัน หลังครึ่งปีแรกลูกค้าเบรกลงทุนยอดนิ่ง    

นางกนกวิภา วิริยประไพกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตรีม ไอ.ที. คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทบรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับบริษัท โพสต์ทิเลียน ผู้พัฒนาระบบการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกจากสหรัฐ ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในไทยแต่เพียงผู้เดียว

ทั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนในภาพรวมของไทย โดยเฉพาะสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นช่วงของการพัฒนาระบบเพื่อให้สอดรับกับกฎระเบียบ และรับมือกับภัยคุกคามออนไลน์ รวมทั้งการแข่งกันหาวิธีลดต้นทุนองค์กรให้ได้มากที่สุด

เธอระบุว่า ภาพรวมของธนาคารไทยยังใช้ระบบการชำระเงินแบบเก่า (เลกาซี ซิสเต็มส์) มากกว่า 80% โดยเฉพาะระบบเอทีเอ็ม พูล ที่ใช้งานมากว่า 20 ปี ซึ่งยากต่อการพัฒนาให้รองรับกับบริการใหม่ๆ ทั้งยังมีต้นทุนจัดการสูง

ขณะที่ระบบของโพสต์ทิเลียนได้รับการยอมรับในฝั่งสหรัฐ และยุโรป ที่เริ่มปรับระบบให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ เปย์เมนท์ เพื่อรองรับการให้บริการระบบการชำระเงินใหม่ๆ ทั้งโมบาย เปย์เมนท์ และอิเล็กทรอนิกส์ เปย์เมนท์

“บ้านเรายังใช้เงินสดในการใช้จ่ายสูง ทำให้ต้นทุนการจัดการของธนาคารสูงตามไปด้วยถ้าเทียบกับการจ่ายเงินในระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็เป็นเทรนด์ที่ระบบใหม่จะเติบโตมากขึ้นช่วงนี้ ซึ่งนอกจากลูกค้าแบงก์แล้ว เรายังมองตลาดคมนาคมด้วย โดยใช้บัตรจ่ายค่ารถ รวมทั้งตลาดค้าปลีก และประกัน ซึ่งมีแนวโน้มจะลงทุนระบบใหม่สูง”

เธอคาดว่า บริษัทจะมีส่วนแบ่งราว 50% จากมูลค่าตลาดการชำระเงินในไทยที่มีแนวโน้มเติบโตถึง 1,000 ล้านบาท ภายใน 2 ปีจากนี้ ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากลูกค้าธนาคารราว 60% และนอน-แบงก์ราว 40%

อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นผลจากการตัดสินใจลงทุนของลูกค้ายากขึ้น ซึ่งบริษัทก็ปรับตัวด้วยการเข้มงวดกับค่าใช้จ่ายภายใน รวมทั้งการหาพันธมิตรทำธุรกิจมากขึ้น โดยนอกจากโพสต์ทิเลียนแล้ว เร็วๆ นี้บริษัทยังเตรียมประกาศจับมือกับพันธมิตรระดับโลกด้านจัดการการฉ้อฉล (Fraud Management) คาดว่าจะช่วยหนุนรายได้เติบโตราว 15% แม้จะต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็เป็นไปตามเป้าเติบโตสูงกว่าตลาดไอทีโดยรวม

นายฟรองซัวส์ แวน สกอร์ ประธานบริษัทโพสต์ทิเลียน ในเครือเอสวัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าผลักดันให้ไทยเป็น “เวิลด์คลาส เคส” สำหรับการทำตลาดโลก โดยประเมินจากจำนวนธนาคาร และสาขาที่ให้บริการ ซึ่งมีขนาดตลาดใหญ่เทียบได้กับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในประเทศที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เช่น สหรัฐ เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นระบบเก่า จึงเป็นโอกาสทางการตลาดสำหรับบริษัทอย่างมาก

“เราตั้งเป้าให้ไทยเป็นเวิลด์คลาส เคส เพราะนอกจากขนาดตลาดที่ใหญ่แล้ว ยังเป็นตลาดที่โดดเด่นของภูมิภาค และมีลักษณะพิเศษเฉพาะที่หลายประเทศต้องมอง ดังนั้นถ้าเราสามารถประสบความสำเร็จ มีท็อปไฟว์ แบงก์ในไทยเป็นลูกค้า ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว และคาดว่าคงอีกไม่นานนี้”

ARMONK, N.Y., June 9, /PRNewswire-FirstCall/ — IBM (NYSE: IBM) today announced the winners of its annual IBM Beacon Awards competition, recognizing IBM Business Partners for outstanding delivery of value to clients and innovative approaches to solving business issues. Winners were selected in 22 award categories by leading industry journalists, analysts, and IBM executives.

(Logo: http://www.newscom.com/cgi-bin/prnh/20090416/IBMLOGO )

The IBM Beacon Awards are an important part of IBM’s PartnerWorld program, providing industry recognition, increased visibility and promotional opportunities to winners and finalists. Members of PartnerWorld take advantage of worldwide IBM marketing and enablement initiatives to drive new revenue and market opportunities through the delivery of innovative, high-value business solutions.

“The IBM Beacon Awards recognize the best solutions and services that Business Partners deliver across our business and around the world,” said Rich Hume, general manager, IBM Global Business Partners. “Through their dedication to innovation, business value and customer satisfaction, these Business Partners combine their deep technology and industry expertise with IBM technology to deliver exceptional solutions that solve real business problems.”

Chosen from more than 340 nominations, winners and finalists from around the world will be honored. This year’s Beacon Award winners by category are:

Mid-Market

– Excellence in the Mid-Market – Asia Pacific Growth Markets, Teamworks Solutions Private Limited, India
– Excellence in the Mid-Market, DPS, Inc., US

Industry and ISV Solutions

– Outstanding Enterprise Application Solution by an ISV, SAP, Germany
– Software as a Service (SaaS) Innovation, iEnterprises, Inc., US
– Outstanding Industry Solution by an ISV, Beijing RiseSoft Co., Ltd., China

Dynamic Infrastructure Solutions

– Outstanding Business Resiliency Solution, Computer Integrated Engineering System LTD. Korea
– Outstanding Energy and Environment (Green) Solution, Enterprise Information Management, Inc., US
– Outstanding Virtualization and Consolidation Solution, Logicalis, Inc., US
– Outstanding Information Infrastructure Solution, Solutions II, US

Platform Solutions

– Outstanding Power of i Business Solution, MSI Systems Integrators, US
– Winning Solution with Power Systems and AIX, S1 IT Solutions, US
– Excellence in System z Solution, Sogeti, US
– Outstanding System x and BladeCenter Solution, Lanlink Informatica, Brazil

Services Solutions

– Outstanding Product Affinity Services Solution, Dynamix Group, Inc., US
– Outstanding Complementary Growth Solution, Mainline Information Systems, US
– Outstanding Collaboration Solution with IBM Global Technology Services, FRITZ & MACZIOL Software und Computervertrieb GmbH, Germany

Software Solutions

– Outstanding Information on Demand Solution, Stream I.T. Consulting Limited, Thailand
– Innovative Collaboration Solution with Lotus(R) Software, Elguji Software, LLC, US
– Outstanding Service Management Tivoli(R) Solution, Lighthouse Computer Services, US
– Outstanding Software Delivery with Rational(R) Software, Ascendant Technology, US
– Outstanding WebSphere(R) Service Oriented Architecture (SOA) Solution, Shandong Inspur Software CO., Ltd., China

Technical Excellence

– Overall Technical Vitality, Sirius Computer Solutions, US

For more information about the IBM Beacon Awards, including a description of the winning companies, please visithttp://www-200.ibm.com/partnerworld/pwhome.nsf/weblook/2009_awards_winners.html.

To learn more about IBM PartnerWorld, a comprehensive program that offers marketing and sales resources, training, certification and technical support to help create new revenue and market opportunities for IBM Business Partners, visit http://www.ibm.com/partnerworld.

Contact information:
Cary Barbour
IBM Media Relations
(917) 472-3564
barbour@us.ibm.com

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ จัดงาน “Hitachi Data Systems Solutions Day Thailand 2013” ภายใต้แนวคิด “Big Data Big Opportunities for a Smarter Business” งานแสดงสุดยอดโซลูชั่นที่ช่วยตอบสนองความต้องการให้กับองค์กรในการบริหาร จัดการบิ๊กดาต้า พร้อมการแสดงทัศนะและแนวคิดต่างๆ จากผู้นำด้านไอทีระดับโลก ทั้งจากบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ และพันธมิตรระดับแนวหน้าด้านไอที ไม่ว่าจะเป็น อินเทล โบรเคด วีเอ็มแวร์ และคอมม์วอลท์ พร้อมการสาธิตผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ได้จัดเตรียมไว้เพื่อแสดงถึงศักยภาพในการบริการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งจากฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ และพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งนี้ นายเควิน เอกเกลสตัน ประธานเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ (ที่ 2 จากซ้าย) และนายปีเตอร์ อิพ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจคู่ค้าและพาร์ทเนอร์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ (ที่ 1 จากซ้าย) พร้อมด้วยผู้บริหารของฮิตาชิประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงานดังกล่าว โดยมีนายวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด (ที่ 3 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ